ศบค.ยังไม่ปรับมาตรการสู้โอไมครอน BA.4 – BA.5 รอเคาะเปลี่ยนมาตรการ 8 ก.ค.นี้

ศบค. จ่อประเมินความรุนแรงโควิดกลายพันธุ์ BA.4 – BA.5 ทบทวนมาตรการที่ประกาศไปแล้ว 8 ก.ค.นี้ ยืนยันปัจจุบันการแพร่ระบาดในประเทศยังคงเป็นสายพันธุ์โอไมครอน

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผู้ช่วยโฆษก ศบค.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ว่า ที่หลายคนกังวลเชื้อกลายพันธุ์ BA.4 – BA.5 ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทราบว่าปัจจุบันมีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ส่วนมากจะเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ พบการติดเชื้อในคนไทยบ้าง แต่เป็นสัดส่วนที่น้อยกว่ามาก

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ยืนยันว่า สายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดในประเทศไทยยังคงเป็นสายพันธุ์โอไมครอน และจากการติดตามข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกยังไม่พบว่า สายพันธุ์ BA.4 – BA.5 มีความรุนแรงเทียบเท่าสายพันธุ์เดลตา ย้ำอีกครั้งว่ากระทรวงสาธารณสุข และ ศบค. ชุดเล็ก จะทำการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ BA.4 – BA.5 อย่างต่อเนื่อง

“เบื้องต้นยังไม่มีการปรับมาตรการที่แตกต่างจากสรุปของที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หากต้องปรับเปลี่ยนมาตรการจะต้องนำเสนอในที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ซึ่งจะมีการประชุมประเมินในวันที่ 8 ก.ค.นี้ เพื่อทบทวนมาตรการที่ได้ประกาศไปแล้ว” พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่า มีการติดเชื้อมากขึ้น แต่ตัวเลขที่ ศบค.ให้ความสำคัญ คือ ผู้ติดเชื้อปอดอักเสบที่วันนี้สูงถึง 684 ราย ซึ่งสูงจาก 2 สัปดาห์ก่อน และมีทิศทางสูงขึ้น แต่ถือว่ายังอยู่ในคาดการณ์ตามมาตรการผ่อนคลายการถอดหน้ากากตามความสมัครใจ โดยอัตราครองเตียงและศักยภาพบุคลากรยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ การครองเตียงในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2 และ 3 ส่วนใหญ่อยู่ที่ 9.9% ยกเว้นบางจังหวัดใหญ่ๆ

หากดูการรับวัคซีนเข็มกระตุ้นจะพบว่า ผู้มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียง 46.5% ยังไม่ถึงเป้าหมาย 60% ที่วางไว้ ทำให้ภาพรวมของทั้งประเทศมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียง 42.6% จึงขอให้ประชาชนเข้ามารับวัคซีนกันมากขึ้น