‘อนุทิน’ ยืนยัน ‘ฟาวิพิราเวียร์’ นำเข้าในระบบรักษาไม่ขาด เอกชนซื้อได้จากบริษัทที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.เท่านั้น

รมว.สาธารณสุข เผยภาครัฐนำยาฟาวิพิราเวียร์เข้าระบบรักษาต่อเนื่อง สามารถใช้ในเด็กได้แต่ต้องให้แพทย์พิจารณา ส่วนเอกชนสามารถจัดหายาได้จากผู้จัดจำหน่ายที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.เท่านั้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การสำรองเวชภัณฑ์ ในสถานการณ์โควิด-19 ระบุว่า การรักษาโควิด-19 ด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ เรมเดซิเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ หรือแพกซ์โลวิด รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ประชาชนที่เข้ารักษาตามสิทธิ ล่าสุด นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ระบุว่า ยารักษาโควิด 19 ยังเป็นการจดทะเบียนให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน การจัดซื้อยารักษาโควิด-19 มีทั้งแบบซื้อตรงกับบริษัทแม่ที่ผลิตยา กับบริษัทที่ได้รับลิขสิทธิการผลิต แต่ย้ำว่าจะซื้อยาจากแหล่งไหน ก็จะต้องดูว่าบริษัทนั้นได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.แล้ว รพ.เอกชน คลินิกเอกชนที่มีการขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาล มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ถูกต้อง หากจะซื้อยา ไม่ขัดขวางเลย แต่ขอให้ซื้อจากบริษัท ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ดังนั้น การโฆษณาว่ามียานำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านมาขายอยู่ตามอินเทอร์เน็ต ผิดกฎหมายทันที

ปัจจุบัน รัฐมีช่องทางการจัดส่งยาให้ถึงบ้านอยู่แล้ว ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงยาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นไปตามพิจารณาของแพทย์ แต่ประชาชน ก็สามารถซื้อหาตามสถานบริการได้เช่นกัน จากนั้น ผู้สื่อข่าว ได้สอบถามถึงกรณีที่ ชมรมแพทย์ชนบทตั้งข้อสังเกตว่าราคายาที่ รพ.เอกชน จัดหามาได้ราคาถูกกว่าที่องค์การเภสัชกรรมจัดหาหลายเท่า นายอนุทิน กล่าวว่า กระบวนเหล่านี้ เป็นไปตามกฎหมาย ผ่านคณะกรรมการตามขั้นตอนตามระเบียบกฎหมาย ประธานชมรมแพทย์ชนบทก็คือข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องให้ความเคารพต่อดุลยพินิจของปลัดสธ.ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา

เมื่อถามถึงประเด็นข่าว เรื่องยาฟาวิพิราเวียร์ ขาดแคลน นายอนุทิน ระบุว่า มีแต่ข่าวรายงาน แต่ตอนนี้ระบบยังจัดส่งยาตามปกติขออธิบายว่า การใช้ฟาวิพิราเวียร์สามารถใช้ได้กับผู้อายุต่ำกว่า 18 ปีด้วย และตอนนี้เข้าถึงยาโมลนูพิราเวียร์ได้มากขึ้น เพราะซื้อสารตั้งต้นมาให้องค์การเภสัชกรรม(อภ.)ผลิตด้วย รวมถึงส่วนที่จัดซื้อก็ราคาถูกลงเพราะซื้อผ่านบริษัทที่ได้รับลิขสิทธิผลิตยาอื่นๆ เราพยายามดูแลประชาชนเต็มที่ สุดความสามารถ

และกำลังศึกษาการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ ในเด็ก เพื่อเพิ่มทางเลือกด้านการรักษา ขอให้กรมการแพทย์ไปหารือกับผู้ผลิตร่วมศึกษาการใช้ในเด็กเพื่อขึ้นทะเบียนในระยะต่อไป ภาพรวมการใช้ยา รู้ว่าใช้วันละหลายแสนเม็ด บางวันเป็นล้านเม็ด มีการจัดหาเข้ามาตลอด ซึ่งท่านปลัดสธ.ฯ ได้ย้ำในที่ประชุมอีโอซีว่าให้แพทย์ใช้ดุลยพินิจตามหลักเกณฑ์กรมการแพทย์ จ่ายยาตามอาการ ไม่ใช่ทุกคนเข้ามาแล้วได้ยา แบบนี้เท่าไหร่ก็ไม่พอ เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็ไม่มีอาการ หรืออาการน้อย อาการปานกลาง ก็ขอให้เป็นตามดุลยพินิจของแพทย์