โควิด BA.2.75 ครองไทย แซง BA.5 พบสายพันธุ์ใหม่ ‘เดลตาครอน’ ติดแล้ว 10 คน

อัปเดตสถานการณ์โควิด-19 พบสายพันธุ์ BA.2.75 เพิ่มเป็น 76% แซง BA.5 ที่เหลือ 26% ขณะที่เชื้อกลายพันธุ์ ‘เดลตาครอน’ ป่วยเพิ่มเป็น 10 ราย สธ.ย้ำ ติดโควิดซ้ำได้ถ้าเป็นคนละสายพันธุ์

สรุปสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 03 ธันวาคม 2565

• ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 4,284 ราย : เฉลี่ย 612 ราย/วัน
• เสียชีวิต จำนวน 105 ราย : เฉลี่ย จำนวน 15 ราย/วัน
• หายป่วยสะสม 2,488,093 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) และเสียชีวิตสะสม 11,587 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศไทยพบเชื้อกลายพันธุ์ BA.2.75 ระบาดแทนที่เชื้อ BA.5 แล้ว ในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อ BA.2.75 กว่า 76% ส่วน BA.5 มีสัดส่วน 26% และที่เหลืออีกประมาณ 2% เป็นสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงเชื้อกลายพันธุ์เดลตาครอน (XBC) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกผสม ระหว่างเดลตาและโอไมครอน พบผู้ติดเชื้อแล้ว 10 ราย เตือนผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว มีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้อีกหากเป็นเชื้อสายพันธุ์อื่น จึงจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันไม่ให้ป่วยหนักหรือเสียชีวิต