SHARE

คัดลอกแล้ว

จีนเปิดประเทศเดินทางเที่ยวไทยไฟลท์แรก 269 คน ขณะที่ กพท. เปิดเผยว่า ไฟลท์บินจากจีนเข้าไทยเฉลี่ย 300 เที่ยว/เดือน หลังทำการอนุมัติแอร์ไลน์จีนไปแล้ว 1,035 เที่ยวบิน

วันที่ 9 ม.ค. 2566 นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ถึงขณะนี้มีสายการบินสัญชาติจีน ทำคำขอเปิดเที่ยวบิน และเพิ่มความถี่บินมาประเทศไทย ในช่วงเดือน ม.ค. – มี.ค. 2566 โดยได้รับการอนุมัติจาก กพท.ให้ทำการบินแล้วรวมจำนวน 1,035 เที่ยว หรือเฉลี่ยเดือนละมากกว่า 300 เที่ยวบิน ถือเป็นสัญญาณบวกของการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการบิน หลังทางการจีนประกาศเปิดประเทศ

นอกจากนี้ ปัจจุบันสายการบินจีน ก็ยังทำคำขอเพิ่มเที่ยวบินเข้ามาอีกประมาณวันละ 40 เที่ยว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจาก กพท. โดยจะต้องประเมินความพร้อมของสายการบิน รวมไปถึงบริการภาคพื้นที่รองรับผู้โดยสารด้วย

“ตอนนี้สายการบินจีนทำคำขอเข้ามาเยอะ แต่การจะอนุมัติเราต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ใช่เพียงสายการบินมีความต้องการเท่านั้น แต่ต้องดูเรื่องของการบริการภาคพื้นที่เกี่ยวข้องของเราด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการบริการผู้โดยสารเมื่อมาถึงไทย”

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริการภาคพื้นค่อนข้างจำกัด กพท.จึงยื่นข้อเสนอไปยังสายการบินที่ต้องการเปิดการบินว่า สามารถไปลงท่าอากาศยานดอนเมืองที่มีบริการภาคพื้นพร้อมรองรับ หรือจะกระจายไปยังท่าอากาศยานเมืองรองอื่นๆ ที่มีความพร้อมเช่นกัน ได้หรือไม่ เพื่อลดปัญหาความแออัด

นทท.จีนเข้าไทย ไฟลท์แรก 269 คน

ขณะที่วานนี้ (9 ม.ค. 2566) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหารทั้ง 3 กระทรวง ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวไฟลท์บินแรกจากเมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีนหลังจีนเปิดประเทศ เที่ยวบินแรกจากจีน คือ MF833 มีผู้โดยสาร 269 คน

นายอนุทิน กล่าวว่า จะมีผู้โดยสารขาเข้าจากจีนจำนวน 15 เที่ยวบิน รวม 3,465 คน คาดว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางโดยท่าอากาศยาน 7-10 ล้านคน ทั้งนี้ ตั้งแต่ไทยเปิดประเทศมีการเดินทางของนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ สายการบินมีคนเดินทางมากขึ้น 80% ทำให้ธุรกิจภาคการท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน และการจ้างงานพลิกฟื้นขึ้นมาก และในปีนี้จะมีผู้เดินทางจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้ามาที่ไทยมากขึ้น ทั้ง 3 กระทรวง จึงเน้นย้ำเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การเฝ้าระวังควบคุมโรคให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยคำนึงถึงความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัย มั่นใจว่าประเทศไทยมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางจากทุกแห่งทั่วโลก ด้วยมาตรการด้านสาธารณสุขที่มีมาตรฐานของโลก

ขอยืนยันในหลักดำเนินการที่จะไม่เลือกปฏิบัติต่อประเทศใดประเทศหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทุกประเทศ และเป็นการระบาดของสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกัน จึงไม่ควรให้โควิด-19 มาเป็นประเด็นการกีดกันประเทศใดประเทศหนึ่ง จากข้อมูลการเฝ้าระวังสายพันธุ์ที่ระบาดในจีน พบว่า 97% เป็นสายพันธุ์ BA.5.2 และสายพันธุ์ BF.7 ซึ่งไม่ได้เป็นสายพันธุ์ใหม่ และไม่ได้มีการแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์ในประเทศไทย นอกจากนี้ ข้อมูลการรับวัคซีนโควิด-19 ของประชาชนจีน พบว่ารับวัคซีนครบ 2 เข็มและ 3 เข็มแล้วในสัดส่วนสูง (ร้อยละ 90.8 และร้อยละ 57.9)

นายอนุทิน กล่าวว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการด้านวิชาการฯ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ถึงเรื่องข้อกำหนดในการเข้าประเทศไทยสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยที่ประชุมได้มีมติให้ยกเลิกการตรวจเอกสารการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มของนักเดินทางก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยได้ปรับมาตรการมาระยะหนึ่งแล้ว ครอบคลุมทั้งการคัดกรอง ป้องกัน และดูแลรักษานักท่องเที่ยวต่างชาติมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ยังไม่พบว่านักท่องเที่ยวเป็นเหตุที่ทำให้เกิดสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

ขณะที่คนไทยมีการฉีดวัคซีนจำนวนมากเช่นเดียวกับประเทศจีนและประเทศต่างๆ ที่มีการฉีดวัคซีนแล้วจำนวนมากเช่นกัน การปรับมาตรการจะช่วยลดภาระความยุ่งยากของทั้งเจ้าหน้าที่และนักเดินทางในการเข้าประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังแนะนำให้นักเดินทางทุกคนฉีดวัคซีนให้ครบอย่างน้อย 2 เข็ม เพื่อป้องกันการป่วยหนักหากติดเชื้อระหว่างการเดินทาง และนักเดินทางจากประเทศที่มีข้อกำหนดให้ตรวจ RT-PCR ก่อนกลับประเทศ ให้ซื้อประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิดตลอดช่วงระยะเวลาเดินทางในประเทศไทยและบวกเพิ่มอีก 7 วัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพหากตรวจพบเชื้อหรือป่วย กรณีมีอาการป่วยทางเดินหายใจ ควรเลื่อนการเดินทางและรักษาให้หายก่อนเพื่อลดการแพร่โรค ทั้งนี้ จะร่วมกับกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงมาตรการดังกล่าวโดยการออกเป็น Notice to Airmen ( NOTAM) หรือกฎระเบียบก่อนเข้าประเทศไทย

ส่วนมาตรการขณะพำนักในประเทศไทย แนะนำให้ผู้เดินทางป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เช่น สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ/ขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ หากมีอาการทางเดินหายใจให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และหากมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล ยืนยันว่า ระบบสาธารณสุขของไทยมีความพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีแผนเตรียมความพร้อมหากการระบาดของโรครุนแรงเพิ่มขึ้น

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่สนใจรับบริการวัคซีนโควิด-19 ได้กำหนดให้สถานพยาบาลภาครัฐบาลจัดหน่วยฉีดเฉพาะจุดสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นำร่องในจังหวัดท่องเที่ยวขนาดใหญ่ ได้แก่ กทม. ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา โดยคิดค่าบริการตามความเหมาะสม และจะมีการหารือกับโรงพยาบาลเอกชนกรณีนักท่องเที่ยวไปรับบริการวัคซีนโควิด-19 จะเก็บค่าใช้จ่ายอย่างไร แต่สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่เมืองไทยระยะยาว หรือมาประกอบอาชีพ ยังคงสามารถรับการฉีดวัคซีนโควิดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายตามนโยบายการฉีดวัคซีนของรัฐเช่นเดิม และขอให้ประชาชนไทยทุกคนฉีดวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ลดการป่วยหนักและลดการเสียชีวิต

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 จะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์เพื่อปรับมาตรการตามสถานการณ์ความเสี่ยง โดยการพิจารณาจะคงคำนึงถึงหลักการเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ตั้งอยู่บนพื้นฐานด้านวิชาการ ความปลอดภัยสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมเช่นเดิม

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า