กระทรวงสาธารณสุขซ้อมแนวทางฉีดวัคซีนโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมสรุปผลตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยวออกจากไทยติดเชื้อโควิดกว่า 300 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวจีนกว่า 10 ราย สธ.จ่อเก็บข้อมูลเพิ่มในอีก 1-2 สัปดาห์ ยืนยันโควิดในไทยยังเป็น BA.2.75
แม้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายแล้ว ความรุนแรงน้อยลง แต่หลายประเทศยังเป็นกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ หลังจีนเปิดประเทศให้มีการเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว ขณะที่จีนและอินเดียกำหนดเงื่อนไขว่า จะต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ก่อน
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การตรวจพบและรายงานผ่านระบบ Co-Lab ประมาณกว่า 300 ราย จำพบว่าเป็นนักท่องเที่ยวจีนกว่า 4% กว่า หรือประมาณ 10 กว่าคน ถือว่ายังน้อยอยู่ ดังนั้นเราจึงจะเก็บตัวอย่างต่อไป ไม่ว่าใครก็ตามที่จะเดินทางออกไปแล้วตรวจพบเป็นผลบวก เราจะขอประสานให้ส่งมาทุกรายเพื่อถอดรหัสสายพันธุกรรม ดังนั้นอีก 1-2 สัปดาห์จะทราบว่า จีนเป็นสายพันธุ์อะไร ชาติอื่นๆ ที่เดินทางเป็นสายพันธุ์อะไร
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า โควิด-19 ที่ตรวจพบส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ BA.4/BA.5 เป็นสายพันธุ์เดิมที่พบในไทย ต้องขอเวลาอีกสัก 1-2 สัปดาห์ นักท่องเที่ยวจะมามากขึ้นและยังอยู่ระหว่างรอการเดินทางกลับ จากนั้นจะมีการตรวจเพื่อเก็บข้อมูลให้ทราบว่า เป็นสายพันธุ์อะไร
- ซ้อมแนวทางฉีดวัคซีนโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติ
ล่าสุดวันนี้ (24 ม.ค. 2566) มีการประชุมชี้แนวทางการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานฯ, นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์
นพ.โอภาส ระบุว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงต้องกำหนดมาตรการป้องกัน-ควบคุมโควิด-19 หนึ่งในแนวทางที่กำหนด คือการให้จัดระบบและกำหนดแนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด-19 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตามความสมัครใจ คิดค่าบริการที่เหมาะสม ภายใต้กลไก Medical hub โดยวัคซีนที่ให้บริการจะเป็นวัคซีนที่รัฐบาลไทยจัดซื้อมาเท่านั้น ไม่รวมถึงวัคซีนได้รับบริจาค และให้ทุกจังหวัดคำนึงถึงปริมาณวัคซีนคงคลังที่จะไม่กระทบกับการให้บริการประชาชนไทย และจัดสรรวัคซีนให้แก่ประชาชนไทยเป็นลำดับแรก
- ต่างชาติทำงานในไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ฟรี
สำหรับชาวต่างชาติที่มาพำนักระยะยาวในไทย อาทิ ทำธุรกิจ ทำงาน คณะทูตและสมาชิกครอบครัว ยังคงรับวัคซีนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามนโยบายเดิมของรัฐบาล ที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิดกับประชาชนทุกสัญชาติที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย ยึดตามหลักสากล โดยเป็นไปตามความสมัครใจและตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ดังนั้น ชาวต่างชาติที่นอกเหนือจากนักท่องเที่ยว ยังคงสามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับคนไทยทุกประการ
นพ.ธเรศ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมในการบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระยะนำร่อง เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2566 โดยได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งกรมการแพทย์ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในเมืองท่องเที่ยว สำหรับกรมควบคุมโรค ได้เตรียมพื้นที่ใน กทม. ไว้ 2 จุด คือ
- ศูนย์การแพทย์บางรัก โดยเปิดให้บริการทุกวัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
- สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) เขตบางเขน
นอกจากนี้ ยังให้เพิ่มจุดบริการในคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่ ชลบุรี และสงขลา รวมทั้งยังมีหลายหน่วยงาน เช่น กรุงเทพมหานคร โรงเรียนแพทย์ ทยอยแจ้งความจำนงขอเป็นจุดบริการฉีดแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย
อัตราค่าบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ
- วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 800 บาทต่อเข็ม
- วัคซีนไฟเซอร์ 1,000 บาทต่อเข็ม
- ค่าบริการทางการแพทย์อีก 380 บาท
- ขณะนี้เริ่มให้บริการแล้วในเมืองท่องเที่ยว ได้แก่ เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต
นพ.ธเรศ ยืนยันว่า ไทยมีวัคซีนเพียงพอ ไม่กระทบการบริการฉีดในคนไทย โดยรายได้จากค่าบริการให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้องของหน่วยงานต้นสังกัดและกระทรวงการคลัง สำหรับการเปิดจุดบริการฉีดของภาคเอกชนนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ให้เริ่มดำเนินการ เนื่องจากต้องมีการวางแผนเรื่องแนวทางปฏิบัติและการกำกับติดตามที่แตกต่างจากโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งหากมีแนวทางชัดเจนแล้วจะนัดประชุมชี้แจงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระยะถัดไป
ทั้งนี้ กรมการแพทย์ได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดร่วมเป็นจุดฉีดวัคซีนสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระยะนำร่อง รวม 5 แห่ง ได้แก่
- สถาบันโรคผิวหนัง
- โรงพยาบาลราชวิถี
- โรงพยาบาลเลิดสิน
- โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
- โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่
โดยสถาบันโรคผิวหนังและโรงพยาบาลราชวิถีจะเป็นจุดฉีดหลัก เนื่องจากใกล้แหล่งพักอาศัยของนักท่องเที่ยว เดินทางสะดวก และทั้ง 2 แห่งมีบริการฉีดวัคซีนในชาวต่างชาติมานาน เจ้าหน้าที่สามารถใช้ภาษาต่างประเทศได้ดี ขณะนี้ได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน และเปิดให้กลุ่มเป้าหมายลงทะเบียนล่วงหน้าได้ รวมทั้งได้มีข้อสั่งการให้โรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ทั่วประเทศ อีก 30 แห่ง เป็นจุดบริการฉีดวัคซีนให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ยังคงเน้นการให้บริการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในประชาชนไทย เพื่อลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต