วันที่ 14 ก.ค. 2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 9,317 ราย ยอดป่วยสะสมตั้งแต่ เม.ย.จำนวน 334,166 ราย หายป่วยเพิ่มจำนวน 5,129 ราย เสียชีวิตจำนวน 87 ราย ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 2563 อยู่ที่ จำนวน 363,029 ราย หายป่วยสะสมจำนวน 260,584 ราย เสียชีวิตสะสม จำนวน 2,934 ราย
สำหรับผู้ป่วยรักษาอยู่จำนวน 99,511 ราย ในโรงพยาบาล 56,057 ราย โรงพยาบาลสนาม จำนวน 43,454 ราย มีอาการหนัก จำนวน 3,201 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ จำนวน 828 ราย
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก มีการพูดถึงทีมเคลื่อนที่เร็วแบบเบ็ดเสร็จ (CCRT) โดยในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) จะมี 69 ทีมลงพื้นที่เป็นครั้งแรก โดยทีมนี้ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข สำนักงานเขต ฝ่ายความมั่นคง NGO อาสาสมัครสาธารณสุขต่างๆ รวมทั้งอาสาสมัครชุมชน โดยจะระดมลงพื้นที่จำนวน 69 ชุมชน และจะทำให้ได้มากขึ้นเพื่อให้ครบ 200 ชุมชน ตามที่ผอ.ศบค.อยากเห็นการร่วมกันดูแลผู้ป่วยโดยทีมที่มีการผสมผสานหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
เมื่อถามว่ากรณีคลินิกเสริมความงาม ร้านตัดผม ร้านทำเล็บ ร้านสัก ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สามารถเปิดได้หรือไม่
พญ.อภิสมัย ชี้แจงว่า ขอขยายความจากมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) ซึ่งขอเน้นย้ำว่าประกาศดังกล่าวหมายความรวมถึง 6 จังหวัด คือ กทม. และปริมณฑลเท่านั้น ได้แก่ กทม. นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ แต่ในส่วนของพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัดของภาคใต้ ไม่ได้รวมอยู่ในหลักการดังกล่าว ขอแบ่งเป็นกิจการภายในห้างสรรพสินค้า และนอกห้างสรรพสินค้า ดังนี้
กิจการที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกัน ดังต่อไปนี้ จะต้องปิดให้บริการ
1.ร้าน/แผนกหนังสือ แว่นตา เครื่องนุ่งห่ม เครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องเขียน เครื่องครัว อุปกรณ์กีฬา เครื่องสำอาง อาหารสัตว์ อาหารเสริมร้านอาบน้ำตัดขนสัตว์ คลินิกรักษาสัตว์
2. สถานเสริมความงาม ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ร้านสักเจาะผิวหนัง ร้านทำเล็บ
3. คลินิกทันตกรรม คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม
4. ร้านให้บริการล้างรถ
5. ร้านซักรีด
เนื่องจากตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรคว่าเพื่อไม่ให้เกิดการรวมตัวของคนจำนวนมากในพื้นที่ปิด เน้นย้ำว่าในห้างสรรพสินค้า เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ยารักษาโรค อุปกรณ์สื่อสารเพื่อความจำเป็นฉุกเฉินเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคลีนิคทันตกรรม รักษาผู้มีบุตรยาก เวชกรรมเสริมความงามเหล่านี้ หากเปิดอยู่นอกห้างสรรพสินค้า ขอให้เป็นอำนาจการตัดสินใจของคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. หรือคณะกรรมการโรคติดต่อแต่ละจังหวัด หากจังหวัดไหนพิจารณาว่าสามารถเปิดดำเนินการได้ขอให้ฟังประกาศของจังหวัดที่ตั้งอยู่ แต่อย่างไรก็ตามขอเน้นย้ำว่า หากมีการเปิดดำเนินการ แต่มีการรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นก็เป็นไปได้ที่จังหวัดนั้นก็อาจจะมีการพิจารณาสั่งปิดในโอกาสต่อไป และผู้ช่วยโฆษก ศบค. ขอขอบคุณหากมีการให้ความร่วมมือ มีผู้ประกอบการที่ปิดกิจการชั่วคราว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดการแพร่ระบาดครั้งนี้

ภาพ