SHARE

คัดลอกแล้ว

อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยสาเหตุ โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19  จนทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่นั้น มาจากการ์ดตก กินน้ำแก้วเดียวกัน พร้อมโต้ข่าวเชิญชวนให้ไปฉีดวัคซีนที่สหรัฐฯ ฟรี ไม่เป็นความจริง เช่นเดียวกับ กระทรวงต่างประเทศ เตือนระวังถูกหลอกซื้อทัวร์

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดขณะนี้ในไทยยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง และมีแนวโน้มทรงตัว โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ยังมีแนวโน้มการระบาดของโรคเพิ่มขึ้นแบบชะลอตัว โดยเฉพาะชุมชนแออัด ยังต้องลดการระบาดให้มากขึ้น โดยเฉพาะในชุมชนแออัด เช่น บางแค คลองเตย และคลัสเตอร์สมุทรปราการ ขณะที่สถานการณ์ในต่างจังหวัดค่อนข้างคงตัว ดังนั้น ต้องเร่งควบคุมคลัสเตอร์ในชุมชน ทั้งการตรวจหาเชื้อ และกระจายวัคซีน

 

ส่วน การพบผู้ติดเชื้อ จากโรงงานแห่งหนึ่ง ใน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เริ่มต้นจากผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นคนงานในโรงงาน และนำเชื้อมาติดเพื่อนร่วมงาน โดยผู้ติดเชื้อรายแรกทำงานในตำแหน่งที่ต้องพบปะกับผู้คนมากมาย และในช่วงรับประทานอาหารไม่มีการกั้นระหว่างกัน อีกทั้งโรงงานไม่มีมาตรการเคร่งครัดในการป้องกันโรค ทำให้มีผู้ติดเชื้อกว่าร้อยคน และกระจายไปยังชุมชนรอบข้าง ขณะนี้ทำการปิดโรงงาน ฆ่าเชื้อและสอบสวนโรคต่อไป ดังนั้นแต่ละโรงงานต้องเคร่งครัดมาตรการ คอยตรวจตราพนักงาน ขอความร่วมมือให้งดสังสรรค์ สันทนาการกันเองในบ้าน อย่างเด็ดขาด

 

เนื่องจาก ตัวเลขการติดเชื้อในครอบครัวและเพื่อน ตอนนี้อยู่ที่ร้อยละ 54 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด จึงต้องเน้นย้ำในสถานที่ทำงานต้องใส่หน้ากากอนามัยให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ หรือการอาศัยร่วมกับผู้สูงอายุ ต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ใกล้ชิด

ขณะที่สถิติ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ สัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 12,437 ราย หายป่วย 1,996 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้ป่วยหายแล้วในสัปดาห์นี้มีมากกว่า 7,509 ราย หมายความว่าผู้ป่วยจากสัปดาห์ก่อนทยอยหายมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนผู้ป่วยอาการหนักขณะนี้ มีจำนวน 951 เตียง ผู้ป่วยสีเหลือง 8,626 เตียง และผู้ป่วยสีเขียว 14,192 เตียง สิ่งสำคัญคือ ต้องสำรองเตียงสำหรับผู้ป่วยหนักและ ICU ไว้ให้ได้มากที่สุด เนื่องจาก ยังมีผู้ติดเชื้ออาการหนักอย่างต่อเนื่อง

ส่วน กระแสข่าวเชิญชวนให้ไปรับการฉีดวัคซีนที่สหรัฐอเมริกาได้ฟรี นั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะสหรัฐอเมริกาเอง ก็ยังฉีดให้ประชากรไม่ครบถ้วน ดังนั้น การจะฉีดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติคงเป็นไปได้ยาก

ส่วนข้อสงสัยที่ว่า ประชาชนจะสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนกับสถานพยาบาลเอกชนได้หรือไม่นั้น อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า การฉีดวัคซีนผ่านระบบของ รพ.เอกชน เป็นจุดหนึ่งในระบบบริการสาธารณสุขที่สำคัญ ในนโยบายการฉีดวัคซีนของประเทศ อยากให้เอกชนมีส่วนร่วมในการฉีดวัคซีน ซึ่ง รพ.เอกชน ยินดีให้ความร่วมมือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือ ใช้งบประมาณของ สปสช. ดังนั้นโรงพยาบาลเอกชนที่จะเข้าร่วมฉีดวัคซีนให้ประชาชน จะต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไจว่าจะไม่มีการคิดค่าบริการฉีด หรือค่าบริการเพิ่มเติม

นพ.โอกาส กล่าวถึง ข้อกังวลว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ จะไม่เพียงพอต่อความต้องการ ว่าขณะนี้ยาฟาวิพิราเวียร์ล็อตล่าสุดเข้ามาในประเทศไทย 2 ล้านเม็ด กระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดแล้ว 1 ล้านเม็ด เก็บไว้คลังส่วนกลางอีก 1 ล้านเม็ด และได้สั่งเพิ่มไปอีก 3 ล้านเม็ด นอกจากนี้ องค์การเภสัชกรรมยัง นำวัตถุดิบมาผลิดยาได้อีกจำนวนมาก จึงสามารถยืนยันได้ว่า ยามีเพียงพอ โดยในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถติดต่อเบิกได้ที่ สาธารณสุขประจำจังหวัด ส่วนกรุงเทพฯ สามารถเบิกได้กับ สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย โดยเน้นย้ำว่า ควรใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เฉพาะรายที่จำเป็นเท่านั้น

ขณะที่ นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีดังกล่าวนี้ว่า 1.ปัจจุบันประชากรที่อาศัยอยู่ หรือเดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีอายุ 16 ปีขึ้นไป สามารถขอรับการฉีดวัคซีนได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และไม่มีค่าใช้จ่าย (ยกเว้นค่าดำเนินการบางรายการ) นอกจากนี้ แต่ละรัฐอาจมีกฎเกณฑ์ ข้อกำหนด และขั้นตอนในการแจกจ่ายวัคซีนที่แตกต่างกัน เช่น ต้องเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่/อาศัยอยู่หรือทำงานอยู่ในรัฐนั้นๆ แต่ในบางรัฐ นักท่องเที่ยวทั่วไป สามารถนำหนังสือเดินทางมาแสดง เพื่อขอรับการฉีดวัคซีนได้ ดังนั้นเมื่อมีข่าวว่า ผู้ที่เดินทางจากลาตินอเมริกา มายังสหรัฐฯ เพื่อฉีดวัคซีน จึงเป็นไปได้ว่า บริษัทนำเที่ยวบางแห่งในประเทศไทย อาจเห็นโอกาสจากช่องว่างนี้ดึงดูดกลุ่มผู้ที่ประสงค์ จะได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว ให้เดินทางไปสหรัฐฯ โดยเฉพาะในรัฐซึ่งยังไม่มีข้อกำหนดห้ามผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

2.ขณะนี้เริ่มมีผู้บริหารและหน่วยงานของหลายรัฐฯ ได้ออกมาตรการเพื่อป้องกันการจัดการท่องเที่ยวเพื่อฉีดวัคซีน (vaccine tourism) อาทิ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา และหน่วยงานด้านสาธารณสุขรัฐแอละบามา ให้สัมภาษณ์สื่อว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดจะจัดให้แก่ผู้ที่มีถิ่นพำนักในรัฐเท่านั้น ชี้ให้เห็นว่า แต่ละรัฐสามารถปรับเปลี่ยนมาตรการการแจกจ่ายวัคซีนได้ตามความเหมาะสม

3.ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต (สอท.) และ สถานกงสุลใหญ่ (สกญ.) ของไทยในสหรัฐฯ ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการถูกปฏิเสธให้เข้าสหรัฐฯ ของคนไทยอยู่เป็นระยะ แม้ว่าจะได้รับการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวมาแล้วก็ตาม โดยเมื่อถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ก็จำเป็นต้องดำเนินการและเสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ อาทิ ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ASQ อีกทั้งต้องขอรับ COE จาก สอท. / สกญ.  ซึ่งหลายครั้งอาจทำให้ต้องติดค้างอยู่ที่สนามบินเป็นเวลานาน ดังนั้น ผู้เข้าร่วมโปรแกรมเดินทางมาท่องเที่ยวและรับการฉีดวัคซีน อาจมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินโดยไม่ได้รับการฉีดวัคซีน รวมทั้งอาจถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าสหรัฐฯ โดย ตม. สหรัฐฯ

4.วัคซีนป้องกันโควิดในสหรัฐฯ ได้รับอนุมัติการใช้งานแบบฉุกเฉิน (EUA) เท่านั้น ดังนั้นหากผู้ที่ได้รับวัคซีนมีอาการข้างเคียงหรือแพ้รุนแรง ทางบริษัทฯ ผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ และหากผู้เดินทางไม่มีประกันสุขภาพที่ครอบคลุม อาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีราคาสู’

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ขอให้ประชาชนที่ประสงค์จะซื้อรายการท่องเที่ยวไปต่างประเทศ เพื่อการฉีดวัคซีน ติดต่อสอบถาม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนตัดสินใจ โดยสามารถสอบถามได้ที่ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ สายด่วน 02-572-8442 และ app “Thai Consular”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า