สั่งปิดตลาดกลางกุ้งอยุธยาอีก 7 วัน เพื่อตรวจเชิงรุกอีกรอบ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 11 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อจากตลาดนี้ รวมเป็น 31 รายแล้ว ผู้ว่าฯ วอนกลุ่มเสี่ยงสูงเข้ารับการตรวจ อย่าปกปิดไทม์ไลน์ พร้อมเตรียมเปิดโรงพยาบาลสนามรับผู้ป่วย
วันที่ 20 เม.ย.2564 นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ หลังยังพบการติดเชื้อในพื้นที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด วันนี้ (20 เม.ย.2564) จ.พระนครศรีอยุธยา พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 14 ราย รวมยอดสะสม 203 ราย
โดยที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการเสนออนุมัติเปิดใช้โรงพยาบาลสนาม ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) สุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา, การขยายศูนย์พักฟื้น Hospitel ที่หอพักนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา, การออกคำสั่งเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนผลการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ตลาดกลางเพื่อเกษตรกร ‘ตลาดกลางกุ้งอยุธยา’ ที่ตรวจไปครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2564 ตรวจหาเชื้อ จำนวน 742 ราย พบผู้ติดเชื้อ 6 ราย ตรวจครั้งที่ 2 ตรวจหาเชื้อ 610 ราย พบติดเชื้ออีก 5 ราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการที่ตลาด 2 ราย
ที่ประชุมจึงเสนอให้ปิดตลาดกลางกุ้งอีก 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.2564 เป็นต้นไป พร้อมกับทำการตรวจคัดกรองเชิงรุกอีกครั้ง ในวันที่ 23 เม.ย.2564 นี้ เพื่อเร่งควบคุมไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย และหลังการตรวจในวันที่ 23 เม.ย.2564 แล้ว จะประชุมประเมินสถานการณ์ว่า จะปิดตลาดต่อไปหรือไม่อย่างไร
ก่อนหน้านี้ มีผู้ติดเชื้อในตลาดกลางกุ้งอยุธยา จำนวน 20 ราย สืบเนื่องจากหลานสาวของเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในตลาดฯ มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง ย่านรัชดาฯ กทม. แล้วเดินทางกลับมาหาญาติ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ป้ากับยายติดเชื้อโควิด-19 จากหลาน จากนั้น ได้ลามไปติดคนในร้านในตลาดกลางกุ้งอยุธยา อีกรวมแล้วจำนวน 20 ราย
ทั้งนี้ ‘ตลาดกลางกุ้งอยุธยา’ ถือเป็นแหล่งรวมร้านค้าอาหารประเภทกุ้งเผา ปลาเผา มากที่สุดของภาคกลาง มีพื้นที่รวมกว่า 10 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย เส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงหลัก กม.ที่ 22 พื้นที่ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา ภายในตลาดแห่งนี้มีร้านค้ามากกว่า 100 ร้านค้า
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ระหว่างตรวจหาเชื้อ ทางจังหวัดได้ออกมาตราการปฏิบัติตนระหว่างที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อ เช่น ห้ามเดินทางมาตรวจเชื้อด้วยรถโดยสารสาธารณะ ห้ามไปในที่ชุมชน ห้างสรรพสินค้า ให้เฝ้าสังเกตอาการที่บ้าน และปฎิบัติตามมาตรการ DMHT ที่สำคัญใครที่เป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงควรไปตรวจหาเชื้อ และอย่าปิดบังไทม์ไลน์เด็ดขาด