สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียเผยส่งมอบวัคซีนเสร็จตามออเดอร์ในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะลดกำลังการผลิตลงอย่างน้อย 50%
วันที่ 8 ธ.ค. 2564 สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (Serum Institute of India) ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศลดกำลังการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลง เนื่องจากว่าไม่มีการสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มเติม
อาดาร์ พูณะวัลลา ซีอีโอของสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น CNBC-TV18 ว่า ปัจจุบันทางบริษัทมีวัคซีนเหลืออยู่ในสต็อกราว 500 ล้านโดส โดยเป็นวัคซีนโควิชิลด์ (Covishield) วัคซีนที่ใช้สูตรของแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ในการผลิต
นายพูณะวัลลาให้สัมภาษณ์ว่า เขาผลิตวัคซีนโควิชิลด์ออกมา 250 ล้านโดสต่อเดือน แต่ข่าวดีก็คือ ประชากรส่วนใหญ่ในอินเดียได้รับวัคซีนแล้ว และจะส่งมอบตามออเดอร์ให้กับกระทรวงสาธารณสุขได้ทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ข้างหน้า
โควิชิลด์เป็นวัคซีนหลักที่ใช้ในอินเดีย โดยจากวัคซีน 1.3 พันล้านโดสที่ฉีด เป็นการใช้โควิชิลด์ในสัดส่วนถึง 90% ซึ่งล่าสุดอินเดียได้ฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้ใหญ่ครบโดสไปแล้ว 50%
ซีอีโอของสถาบันเซรุ่มยังเผยว่า บริษัทไม่มีออเดอร์เพิ่มเติมเข้ามา จึงจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตลงอย่างน้อย 50% โดยจะพิจารณาแบบเดือนต่อเดือน จนกว่าออเดอร์จากในอินเดียและจากทั่วโลกจะเริ่มเข้ามาอีกครั้ง
สถานการณ์ดังกล่าวนับว่าแตกต่างจากเมื่อช่วงเดือนเม.ย. อย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อย้อนกลับไป ณ ตอนนั้น สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียได้ตัดสินใจหยุดการส่งออกวัคซีนไปนอกประเทศ เพื่อให้มีวัคซีนใช้ในอินเดียอย่างเพียงพอ กว่าจะเริ่มส่งออกอีกครั้ง ต้องรอจนถึงเดือนต.ค.
นายพูณะวัลลายังเปิดเผยด้วยว่า เขาได้พูดคุยกับผู้นำประเทศหลายรายที่ยังต้องการวัคซีนอยู่ แต่น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถทำการขนส่งจากอินเดียได้ เนื่องจากไม่มีระบบขนส่งและการเก็บความเย็นที่ดีพอ