กรมการแพทย์ ย้ำเกณฑ์ UCEP plus ผู้ติดเชื้อกลุ่ม 608 ถือเป็นผู้ติดเชื้ออาการสีเหลืองโรงพยาบาลต้องรักเข้ารับการรักษา ห้ามปฏิเสธ

สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์
วันที่ 2 เม.ย. 2565 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป, ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม ถือเป็นผู้ติดเชื้ออาการสีเหลืองสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามเกณฑ์ UCEP plus ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นย้ำให้กรมการแพทย์และหน่วยงานเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนบูรณาการบริหารการจัดการเตียง เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วย
“ขอชี้แจงเรื่องแนวทางการดูแลรักษากลุ่ม 608 คือ สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ ถือเป็น ‘กลุ่มสีเหลือง’ หากพบติดเชื้อโควิด-19 สามารถใช้สิทธิ UCEP plus เข้า รพ.ได้ทุกแห่ง จะไปโรงพยาบาลเอกชนก็ได้ ซึ่งตามกฎหมายแล้วโรงพยาบาลไม่มีสิทธิปฏิเสธคนไข้ เพราะกลุ่ม 608 มีความเสี่ยงจะป่วยหนัก รุนแรง และเสียชีวิต จึงเปิดให้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มอาการสีเหลืองแอดมิตได้ก่อน” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตามเกณฑ์ UCEP plus กลุ่มสีเหลืองเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ แต่ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของแพทย์ว่าสามารถรักษาในโรงพยาบาลได้หรือไม่ หรือสามารถรักษาที่บ้าน เพราะบางรายอาการแข็งแรงและไม่อยากนอนโรงพยาบาล จึงขอให้แพทย์ร่วมประเมินกับคนไข้ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน
สำหรับสถานการณ์เตียงนั้น ภาพรวมพบว่ายังมีจำนวนเตียงในโรงพยาบาลเพียงพอสำหรับรองรับกลุ่ม 608 โดยหลักโรงพยาบาลไม่สามารถปฏิเสธการรักษาได้ อย่างไรก็ตามการเข้ารับการรักษาต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ด้วย แต่หากเตียงในโรงพยาบาลเต็ม ขอให้ประสานกับเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยต่อไป นอกจากนี้ยังมีความห่วงใยกลุ่มเด็กเล็กที่ติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ กรมการแพทย์ได้เร่งปรับรูปแบบการรักษาเพื่อรองรับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ออกแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง วันที่ 22 มีนาคม 2565 จากความร่วมมือของคณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ และผู้แทนทีมแพทย์ที่ปฏิบัติหน้างาน ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด ได้ทบทวนและปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วย ตามข้อมูลวิชาการในประเทศ และต่างประเทศ ทั้งการจัดเตรียมยา Molnupiravir และ Paxlovid สำหรับกลุ่มเสี่ยง 607 (ยกเว้นสตรีตั้งครรภ์) รวมถึงแนะนำให้ฉีดวัคซีน และวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อสร้างภูมิต้านทาน และยังคงเคร่งครัดมาตรการทางสังคม ทั้งการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19