SHARE

คัดลอกแล้ว

หากไม่พูดถึงกิจการของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF และ บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ดโซลูชั่น จำกัด (CPFGS) ที่  ‘สุจริต มัยลาภ’ ดูแลรับผิดชอบอยู่ในตอนนี้ในฐานะผู้บริหารคนหนึ่ง เขาถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่นับว่าเก่ง เชี่ยวชาญ และมีไลฟ์สไตล์การบริหาร รวมถึงมุมมองการคิดเรื่องการบริหารในหลายมิติที่น่าสนใจ

ความหล่อเหลาที่หลายคนอาจจะพอคุ้นหน้าของ ‘สุจริต’ ในฐานะอดีตนายแบบ Johnnie Walker ยังมีหมวกอีกหลายใบที่เขาเคยสวม ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ทำงานในสายไฟแนนซ์, การวางกลยุทธ์ จนมาลงเอยกับ CP-Meiji’ ครั้งแรกในอาณาจักรเจริญโภคภัณฑ์ฯ

ด้วยโลกธุรกิจในปัจจุบันมีหลายปัจจัยที่ประกอบกัน แล้วผลักดันให้ธุรกิจเติบโต และประสบความสำเร็จ circle ของงานบริหารตั้งแต่ วิธีคิด, ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึง ประสบการณ์ทั้งหมด ล้วนส่งเสริมต่อกันทั้งสิ้น

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม TODAY Bizview ชวนทุกคนมารู้จักกับ ‘สุจริต มัยลาภ’ ผู้บริหารสูงสุดสายงานการค้าของ CPF และ และกรรมการผู้จัดการแห่ง CPFGS บริษัทน้องใหม่ ที่เกิดจากการรวมธุรกิจเทรดดิงและส่งออก ซึ่งตอนนี้ดูแลธุรกิจครอบคลุมในต่างประเทศ 40% และในประเทศ 60%

[ Chapter 1 – ก่อนเป็นสายเลือด CP ]

เขาได้เล่าย้อนไปเมื่อก่อนจะมาที่ CPF ว่า “จบเศรษฐศาสตร์จากอเมริกา อยู่ที่นั่น 7 ปี ตั้งแต่ไฮสคูล พอกลับมาก็ทำงานสายธุรกิจไฟแนนซ์ที่ภัทร (บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ทำอยู่หลายบริษัท รวมถึง อาร์เธอร์ แอนเดอร์สัน (Arthur Andersen) ตอนนั้นไปทำด้าน Strategy ให้ปตท. ตอนนั้นจะแปรรูป ก่อนจะมาร่วมงานกับ CPF ซึ่งตอนแรกผมมาช่วยในส่วนของ CP-Meiji

‘สุจริต’ ทำงานที่ CP-Meiji ถึง 9 ปี ก่อนจะเปลี่ยนสายมาทำการค้าภายในประเทศให้กับ CP Freshmart ช่วยในเรื่องของการเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด ตลาดสด แล้วก็ร้านอาหาร ทำอยู่ตรงนั้นประมาณ 2 ปี

หลังจากนั้น สุจริต ย้ายตัวเองไปอยู่ที่ Lotus’s กับ Mekro เรียนรู้งานอยู่ประมาณ 2 ปี ก่อนจะตัดสินใจกลับมาที่ CPF เพื่อช่วยดูแลเรื่องการค้าทั้งภายในประเทศ และตลาดต่างประเทศ รวมถึงร้านอาหารในเครือ CPF

สไตล์การบริหารงานของ สุจริต จากที่มีโอกาสได้พูดคุยอย่างเป็นกันเอง มองว่า ด้วยความที่พื้นเพเดิมมาจากครอบครัว ‘ทหาร’ ตั้งแต่คุณปู่ คุณตา และคุณพ่อก็เป็นทหาร ขณะที่สุจริตเองมีความฝันที่อยากจะเป็น ‘นักการทูต’ ตั้งแต่เด็ก เขาต่อยอดสิ่งที่ฝัน ประสบการณ์ชีวิต การเลี้ยงดู อุปนิสัย ความเชื่อ ฯลฯ ล้วนส่งต่อให้เกิดการบริหารงานจนถึงปัจจุบัน

[ ‘วินัย’ เคล็ดลับความสำเร็จ? ]

นอกจากเรื่องวินัยที่น่าจะได้จากการเป็นครอบครัวสายเลือดทหาร หนังสือเล่มโปรดที่อ่านล่าสุดของเขา ก็คือ “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์” อดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และนักแสดงชื่อดังในสหรัฐอเมริกา

สุจริต ได้แชร์ประโยคเด็ดที่ทำให้เขาจดจำได้ ก็คือ ในหนังสือเล่มนี้ได้บอกว่า “วิชั่นคนเราอย่าไปเซ็ตให้มันยากเกินไป มันจะมี 3 ปี 5 ปี แต่สุดท้ายเราจะถึงวิชั่นได้ถ้ามี discipline (วินัย) และ Consistency (ความสม่ำเสมอ) เราจะไขว่คว้าหาความรู้จนสำเร็จได้ แต่เราจะปรับอย่างไร ให้มีเป้าหมายชัดเจนและทำให้ได้จริงๆ”

นำมาสู่กิจวัตรประจำวันของผู้บริหารคนนี้ นั่นก็คือ ‘การวิ่ง(เกือบ)ทุกเช้า’ ที่สวนเบญจทัศน์ 6.00 น.ช่วงเช้า สัปดาห์ละ 3 วัน โดยกำหนดเวลาวิ่งอยู่ที่ 5.55 กิโลเมตร เหตุผลเพราะไม่อยากเครียดเกินไป

เขาได้เล่าว่า “ถามว่าทำไมต้อง 5 กิโลเมตร เพราะเราเคยวิ่งเยอะกว่านี้ ขยับจาก 5 ไป 10 แล้วรู้สึกว่าใช้เวลานานเกินไป ไม่ค่อยสนุก ทำให้เราเครียด”

“การวิ่งสำหรับผมทำให้ปลอดโปร่ง ไม่เครียด มีจุดที่เราจะลดความเครียดได้ ช่วงแรกเราจะยังคิดวนๆ เรื่องงานอยู่ในช่วง 5-10 นาทีแรก ยังฟุ้งซ่าน แต่หลังจากนั้นเราจะมาจดจ่อกับการวิ่ง มาโฟกัสกับตัวเอง แล้วก็เริ่มนับลมหายใจด้วย”

“เราชอบวิ่งสงบๆ ไม่ฟังเพลง ฟังเสียงรอบข้าง เรามีสมาธิกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้า เรื่องทุกอย่างหายหมด ทำให้เรารู้สึกรีแล็กซ์มากขึ้น”

เมื่อถามถึงช่วงเวลาที่วิ่ง มีไอเดียเรื่องงานที่บรรเจิดขึ้นมา หรืออย่างไร? แต่เขากลับแชร์ว่า ไม่มี เพราะอยากโฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จดจ่อกับการวิ่ง เลยทำให้ในหัวไม่มีเรื่องงาน มองว่า สุจริต ค่อนข้างแบ่งเวลาและสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ณ ช่วงเวลานั้นๆ อย่างชัดเจน ซึ่งอาจเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งในการบริหารงาน ที่ต้องอาศัยความเด็ดเดี่ยว มั่นคง และมีวินัยในตัวเองสูง

นั่นก็คือ ‘การสร้างสมาธิ’ ให้ตัวเอง ซึ่งจำเป็นมากๆ ต่องานบริหารธุรกิจ บริหารคน และจัดสรรตัวเองสำหรับคนในระดับ C-level

[ โฟกัสให้ถูกจุด ชั่งความสำคัญให้เป็น ]

สำหรับ สุจริต มองเรื่องการบริหารเวลาการทำงานเป็นเรื่องสำคัญ เช่น ‘การประชุม’ เขาถือเคล็ดลับที่ว่า ‘ประชุมให้น้อย คุยกันให้เยอะ’ การประชุมมากๆ อาจจะไม่ได้ช่วยให้เกิด productive ขึ้นมา  หากเนื้อหาที่ประชุมไม่มีอะไรชัดเจน หรือตรงจุด

“หน้าที่ของเราคือ เมื่อได้โจทย์มาแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ ต้องเข้าใจด้วยว่า ไม่มีใครได้ 100% แค่ 70-75% ก็ถือว่าเก่งมากๆ แล้ว เรามีหน้าที่หาคน หาทีม คิดเติมเต็มส่วนที่ขาด ต้องรู้ใครถนัดหรือไม่ถนัดอะไร”

นอกจากนี้ เขายังถือคติที่ว่า ‘ลูกค้าชนะ เราชนะ’ ความสำเร็จของธุรกิจอย่างยั่งยืนบางทีก็จำเป็นต้องดูแลลูกค้าอย่างครบด้าน สำหรับ สุจริต เขามองว่า การใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น วัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ที่เป็นลูกค้า หรือ การให้ความสำคัญกับลูกค้า เช่น บินไปเพื่อแสดงความยินดีกับลูกค้า สิ่งเหล่านี้เป็นการซื้อใจลูกค้าได้ทั้งหมด

‘ความพอใจของลูกค้า’ เป็นสิ่งสำคัญมากๆ รวมถึงการช่วยลูกค้าอย่างเต็มที่ เช่น การวัดผลจากยอดขาย หากลูกค้าไม่เติบโตหรือยอดขายไม่ดีขึ้น เราต้องรีบเข้าไปซัพพอท หาโซลูชั่นที่ดีขึ้นเพื่อลูกค้า เพราะถ้าลูกค้าไม่ชนะ เราเองก็จะไม่มีทางชนะเช่นกัน

“สิ่งที่เราทำต้องส่งผลดีกับคนอื่น ถ้าไม่ดีต้องกลับมาคิดว่าใหม่ ถ้าทำแล้วไม่ใช่ก็ไม่ควรทำ เพราะมันจะทำให้เราไม่มีเพื่อน หากเราเอาเปรียบเค้าวันนี้เค้าก็ไม่เอาเราแล้ว” 

“การที่มีสินค้าที่หลากหลาย มีสินค้าครบ ทั้งหมดมันคือ mindset ว่าทำอย่างไรเราจะสามารถดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด ผมบอกทีมตลอดเวลา เราไม่ได้ขายของ เราขายบริการ เรามีหน้าที่ทำให้ลูกค้าได้ของครบทุกอย่าง สิ่งที่เราไม่มี ก็ไปหาให้”

สิ่งที่ผู้บริหารคนนี้สะท้อนออกมา มีหลายอย่างน่าสนใจ หนึ่งในนั้นก็คือ วิธีคิดของเขา ภายใต้ความใจเย็น ดูเข้าใจสถานการณ์ และเชี่ยวชาญเรื่องการบริหาร ต่างก็ต้องพึ่งพาเวลาอันมีค่า กว่าจะตกผลึกอย่างดีจนมาเป็น ‘สุจริต มัยลาภ’ อย่างทุกวันนี้ได้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า