เซ็นทรัล รีเทล เปิดตัว CEO คนใหม่ ภายใน 3 ปี ทุ่ม 4.5-4.7 หมื่นล้าน เน้นขยายตลาดไทย เวียดนาม

ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ ต้องเร่งปรับตัวตาม เช่นเดียวกับเซ็นทรัล รีเทล ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งไทย แถลงกลยุทธ์ใหม่ เปิดโรดแมป 3 ปี โดยทุ่มงบกว่า 45,000-47,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ และ EBITDA ต่อปีประมาณ 5% เน้นขยายตลาดไทยและเวียดนาม

โดยการแถลงครั้งนี้ ทางเซ็นทรัลรีเทลได้เปิดตัวผู้บริหารคนใหม่ สุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC โดยเป็นผู้มากประสบการณ์ในวงการค้าปลีกเครือเซ็นทรัลมาอย่างยาวนาน เช่น เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้ง Supersports, ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด รวมถึงเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด

ล่าสุดกับการดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ของ เซ็นทรัล รีเทล ได้สะท้อนมุมมองสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีความท้าทายเกิดขึ้นอย่างมากมาย เช่น การเติบโตของ GDP โลกที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตในปีนี้ราว 2.5% เท่านั้น โดย GDP ประเทศไทย คาดการณ์ว่าจะเติบโตเพียง 1.8% ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน

แม้จะมีความยากกว่าปีที่ผ่านๆ มา แต่เซ็นทรัล รีเทล มองความท้าทายเหล่านี้เป็นโอกาส โดยเฉพาะธุรกิจรีเทลที่สัมพันธ์ไปกับพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การเปลี่ยนช่องทางการซื้อของเป็นรูปแบบออนไลน์ มีช่องทางจับจ่ายใช้สอยหลากหลายมากขึ้น พร้อมให้ความสำคัญกับคุณค่าและประสบการณ์ที่ดีที่สุด คุ้มค่า สะดวก ง่าย และรวดเร็ว

จึงเป็นแรงขับเคลื่อนให้ เซ็นทรัล รีเทล พัฒนากลยุทธ์ใหม่โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมให้กับการทำงานขององค์กรในหลายมิติ เพื่อให้เซ็นทรัล รีเทล สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ทั้งในช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เซ็นทรัล รีเทล ได้กางโรดแมป 3 ปี กับกลยุทธ์ “New Heights, Next Growth” ที่ประกอบไปด้วย 5 แกนหลัก ตลอดช่วงปี 2568-2570 ได้แก่

1. Reinforce Customer Focus เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผ่านการเสริมแกร่ง The 1 Loyalty Program ในไทย และเวียดนาม ที่มีจำนวนสมาชิกรวมกันกว่า 26 ล้านรายแล้ว ถือเป็นเป็นเบอร์ 1 ด้าน Loyalty Platform พร้อมเดินหน้าขยายฐานกลุ่มลูกค้า Young & Mainstream และเจาะกลุ่มลูกค้า B2B มากขึ้นด้วย
2. Strengthen CRC Foundation เสริมรากฐานขององค์กรให้แข็งแกร่ง ด้วยการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจหลัก ทั้งด้านยอดขายและกำไร รวมถึงการขยายและปรับปรุงสาขา พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีกับแพลตฟอร์มให้เป็นหนึ่งเดียว ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ Omnichannel แบบไร้รอยต่อ นำเอา AI เข้ามาเสริมด้วยหวังผลักดันยอดขายออนไลน์ให้เติบโตแบบ Double Digit อย่างต่อเนื่อง เน้นไปที่กลุ่มสินค้าแฟชั่น, อาหาร, Hardline และอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังเร่งขยายธุรกิจ Food และ Mall ในประเทศเวียดนาม และพัฒนาค้าปลีกในประเทศอิตาลีด้วย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญแห่งหนึ่งในโซนยุโรป เรียกได้ว่าเป็นการนำเอา Store Format ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเชิงลึกในแต่ละพื้นที่ ส่วนในประเทศไทย เซ็นทรัลรีเทลได้ปรับปรุงช้อปปิ้งมอลล์ให้เป็นศูนย์รวมารใช้ชีวิต ทั้งช้อป กิน เล่น รวมถึง นับสนุน Local Brand ให้เป็นที่โดดเด่น พร้อมเพิ่มพื้นที่สำหรับการจับจ่ายใช้สอยเป็น Community
3. Expedite New Growth เร่งสร้างการเติบโตให้กับ New Growth Engine ของเซ็นทรัล รีเทล ผ่านการขยาย GO WHOLESALE ที่ผ่านมาขยายเป็นทั้งหมด 23 สาขา ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ การขยาย Private Labels, ก้าวสู่การเป็น HORECA Destination สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร, เป็นผู้นำเรื่องของสด (Always Fresh-Forward), ขยายสาขาอีกกว่า 12-18 สาขา ภายใน 3 ปี และพัฒนา New Store Concept และ Fulfillment Store ให้เหมาะกับกลุ่ม HORECA และค้าปลีกอาหาร

นอกจากนี้ยังเดินหน้าขยายเครือข่ายธุรกิจของ Auto1 ศูนย์บริการและจำหน่ายอุปกรณ์รถยนต์ครบวงจร ด้วยการเร่งเปิดสาขาเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10 สาขาต่อปี ให้ครอบคลุมในทำเลศักยภาพ

4. Scale Synergy สร้างความร่วมมืออย่างเข้มข้นทั้งในองค์กรและนอกองค์กร โดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันกับธุรกิจทั้งหมดในเครือเซ็นทรัล รีเทล และเซ็นทรัลกรุ๊ป ทั้งในเชิงการเพิ่มยอดขาย และผลักดันการทำงานร่วมกันของพนักงานในกลุ่มธุรกิจต่างๆ พร้อมเพิ่มผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ด้วยโมเดล Mix-used และ Hybrid Retail Store

5. Disciplined Financial Management บริหารการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน โดยควบคุมค่าใช้จ่าย เน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ปรับแผนการลงทุนให้สอดคล้องและยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ พร้อมบริหารโครงสร้างเงินทุนอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น

นอกจากนี้ยังได้มุ่งเน้นไปที่ตลาดประเทศเวียดนามด้วย เพราะมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดย GDP คาดว่าจะเติบโตในปีนี้มากถึง 5.2% เลยทีเดียว ซึ่งเซ็นทรัลได้เข้าไปทำการตลาด ปัจจุบันมีสาขา 26 สาขา ใน 34 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนาม โดยฟอร์แมตที่แข็งแรงมากที่สุดคือ Go! (ไฮเปอร์มาเก็ต) รวมทั้ง go! (mini go) และสร้าง Mall ที่จะผนวกรวมเข้ากับแหล่งอาหารได้อย่างลงตัว

คาดว่าในอนาคต เซ็นทรัลรีเทล จะสามารถขยายสาขาใหม่ให้เติบโตทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ในปี 2025-2027 ประกอบไปด้วย

• Department Store เพิ่มอีก 1-2 แห่ง (ปัจจุบันมี 76 แห่ง)
• TOPS เพิ่มอีก 1-2 แห่ง (ปัจจุบันมี 175 แห่ง)
• ไทวัสดุ เพิ่มอีก 13-16 แห่ง (ปัจจุบันมี 86 แห่ง)
• Robinson Lifestyle เพิ่มอีก 2-3 แห่ง (ปัจจุบันมี 28 แห่ง)
• GO! mall เพิ่มอีก 4-6 แห่ง (ปัจจุบันมี 42 แห่ง)
• mini go เพิ่มอีก 12-15 แห่ง (ปัจจุบันมี 14 แห่ง)

อีกทั้งจะมีการปรับปรุงรีโนเวทเพิ่มเติมในบางสาขาด้วย

“ด้วยแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เซ็นทรัล รีเทล มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งในทุกมิติภายในระยะเวลา 3 ปีนี้ โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ และ EBITDA ต่อปีประมาณ 5% ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 45,000-47,000 ล้านบาท

ซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการขยายศักยภาพองค์กร เสริมสร้างความมั่นคงทางธุรกิจ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ตอกย้ำภาพผู้นำตลาดค้าปลีกและค้าส่งอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ตลอดจนเพื่อสร้างคุณค่าและผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง” นายสุทธิสาร กล่าวสรุป