สรุปกลยุทธ์ ‘เซ็นทรัล รีเทล’ จะทุ่มแสนล้าน อีก 5 ปี ขอเป็นเบอร์ 1 ค้าปลีกแห่งเอเชีย

ถึงเวลาประกาศกลยุทธ์ใหม่ ‘เซ็นทรัล รีเทล’ ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย เผยแผนระยะยาว ทุ่มเงิน 1 แสนล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียให้ได้ 

เป้าหมายนี้คือโจทย์ใหญ่ในโลกธุรกิจค้าปลีก เพราะปัจจุบันต้องเผชิญทั้งภาวะโรคระบาด ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ประกอบกับการแข่งขันที่ดุเดือด และการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปทุกวัน …เซ็นทรัลจะทำอย่างไร? 

ถอดบทเรียน ‘สร้างกลยุทธ์ผ่านพฤติกรรมผู้บริโภค’

หากย้อนไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว กลุ่มเซ็นทรัลเคยประกาศแผนว่าจะดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ ‘Digital Centrality’  ผันตัวเองให้เป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งและการใช้ชีวิต ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์รวมเข้าไว้ด้วยกัน 

แต่ตลาดออนไลน์ในขณะนั้นยังไม่บูมเท่าในปัจจุบัน หลายคนยังมองภาพการเติบโตของตลาด e-Commerce ได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก

มาถึงวันนี้ ต้องยอมรับว่า ‘การมองการณ์ไกล’ คือสิ่งที่บริษัทใหญ่ๆ มักจะท่องไว้เสมอ กลยุทธ์ธุรกิจคือการมองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ในระยะยาว อย่างในกรณีเซ็นทรัล รีเทล คือการได้สนับสนุนและพัฒนาช่องทางออนไลน์ที่กำลังเติบโต ไปพร้อมๆ กับช่องทางออฟไลน์ 

นี่คือจุดตัดที่สำคัญ เพราะเซ็นทรัลมองเห็นอย่างชัดเจนว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ มีแนวโน้มที่จะซื้อของทั้ง 2 ช่องทางผสมผสานกันไป ไม่ได้เลือกซื้อแค่ช่องทางใดช่องทางหนึ่ง

ดังนั้น พอเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ยิ่งเป็นตัวเร่งเกมการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ แม้ธุรกิจค้าปลีกจะได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่เซ็นทรัลก็มีแผนรองรับโดยการรุกตลาดออนไลน์มากขึ้น และมีมาตรการดูแลความปลอดภัยแก่พนักงาน ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคเมื่อต้องมาใช้บริการที่ห้างหรือร้านค้า ฯลฯ

ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเซ็นทรัลสามารถทำตามเป้าหมายได้ ปัจจุบันยอดขายรวมจากทุกช่องทาง (Regional Omnichannel Retailer) ของเซ็นทรัลเติบโตอย่างมาก 

บทเรียนครั้งนี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเป้าหมายใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือเป้าหมายของการเป็นธุรกิจค้าปลีกเบอร์หนึ่งในเอเชีย

เซ็นทรัลจะใช้กลยุทธ์ ‘CRC Retailigence’ จับ 5 เทรนด์แห่งอนาคต 

ถ้าถามว่าเซ็นทรัลจะไปถึงเป้าหมายเบอร์ 1 ค้าปลีกแห่งเอเชียได้อย่างไร หนึ่งในคำตอบสำคัญอยู่ที่ซีอีโอของบริษัท

ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล ได้พูดถึงเทรนด์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยแบ่งออกเป็น 5 เทรนด์สำคัญ ดังนี้

1) พฤติกรรม: พฤติกรรมของผู้บริโภคจะพลิกไปสู่รูปแบบใหม่ ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริง ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบเดิมอย่างสิ้นเชิงและรวดเร็ว 

2) เทคโนโลยีดิจิทัล: โลกจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นตัวเร่ง

3) สุขภาพ: ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นในการดูแลสุขภาพ และการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ โดยจะมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเชื่อม ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตได้ครบครัน

4) ความร่วมมือทางธุรกิจ: การร่วมมือกันระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ จะมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จและการเติบโตไปด้วยกัน 

5) ความยั่งยืน: การมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสังคมและดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องสำคัญของทุกคนและทุกภาคส่วน

ซีอีโอของเซ็นทรัล รีเทล ยังบอกด้วยว่า จากทั้ง 5 เทรนด์ที่ว่ามา จะนำไปสู่ 4 กลยุทธ์ที่เกิดขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘CRC Retailigence’ โดยเซ็นทรัลจะอัดฉีดทุ่มงบลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมขยายการเติบโตทุกกลุ่มธุรกิจทั้ง Food-Fashion-Hardline-Property และสร้างธุรกิจใหม่เพิ่มด้วย โดย 4 กลยุทธ์ที่ว่านี้ ประกอบไปด้วย 

1.) Reinvent Next-Gen Omni Retail – ยกระดับแพลตฟอร์มช้อปปิ้ง ที่เชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลใหม่ ๆ ทุกกลุ่มธุรกิจ ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี

2.) Accelerate Core Leadership – เร่งและสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักของ เซ็นทรัล รีเทล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับสากล 

3.) Build New Growth Pillars – เดินหน้าสร้างธุรกิจใหม่ โดยเริ่มจากกลุ่ม Wellness รวมถึงเซ็กเมนต์อื่น ๆ ที่เป็นไปตามเทรนด์ของโลกและความต้องการของผู้บริโภค

4.) Drive Partnership, Acquisition and Spin Off ขยายธุรกิจภายใต้แนวคิด Inclusive Growth สร้างความสำเร็จร่วมกันกับพาร์ทเนอร์เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน 

สิ่งที่เซ็นทรัล รีเทลให้ความสำคัญมากขึ้น คือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า อย่างการเข้ามาของ Metaverse ทำให้เซ็นทรัลต้องพัฒนาแบรนด์ เพื่อที่จะทดลองเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริง เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน 

เซ็นทรัลย้ำชัดว่า ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา ความเป็นไปได้ต่างๆ ของ Metaverse โดยต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร็วจนเกิดความเสี่ยง แต่ต้องไม่ช้าจนตกขบวน 

อย่างไรก็ตาม เซ็นทรัล รีเทล ตั้งเป้าผลประกอบการในปี 2569 ด้านรายได้จะเติบโต 2.5 เท่า EBITDA เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า และ Market Cap เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า สามารถเป็น Central to Life และเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกแห่งภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มรูปแบบ ในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้