‘มาดามมาย’ เคลื่อนไหว หลังชาวเน็ตแฉเป็นต้นเหตุชายวัย 25 ปี จบชีวิตตัวเองลง

นักศึกษาปริญญาโทเครียด ยืมเงินให้เพื่อนแต่ไม่ยอมใช้หนี้คืนและหลบหน้า ทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยแทนอาทิตย์ละ 12,000 บาท สุดท้ายเลือกจบชีวิตตัวเอง ขณะที่ชาวเน็ตออกมาแฉพฟติกรรมสาวประเภทสองรายนี้ยืมเงินแล้วไม่ยอมคืนจนเกิดแฮชแท็ก #มาดามมาย ขึ้นเทรนโลกโซเชียล

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากกรณีนักศึกษาปริญญาโทอายุ 25 ปีจบชีวิตตัวเองลง หลังเกิดปัญหาเรื่องหนี้สิน โดยผู้เสียชีวิตไปกู้เงินจำนวน จำนวน 97,800 บาท มาให้เพื่อนสาวประเภทสองใช้ชื่อว่ามาดามมาย จากนั้นมาดามมายไม่ยอมรับผิดชอบจ่ายหนี้ และไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ผู้เสียชีวิตต้องจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยแทนอาทิตย์ละ 12,000 บาท จนเกิดภาวะเครียด พยายามโพสต์ทวงเงินหลายครั้งแต่เพื่อนก็เงียบหายไป กระทั่งชายวัย 25 ปี เลือกจบชีวิตลง

ต่อมาชาวเน็ตพากันออกมาเปิดเผยข้อมูล และพฤติกรรมของสาวประเภทสองรายนี้ในหลากหลายแง่มุม จนเกิดแฮชแท็ก #มาดามมาย  และล่าสุดเจ้าตัวที่ถูกกล่าวถึงได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ขอแสดงความขอโทษและความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ไม่ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้จริง ๆ คงไม่มีใครอยากให้เกิด รู้ดีว่าคำขอโทษตอนนี้มันไม่มีความหมาย แต่ยังไงก็ยังอยากแสดงความรับผิดชอบและความเสียใจจริง ๆ จากใจ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยไม่มีเจตนาให้มันเกิดจริง ๆ รู้ดีว่าคำขอโทษมันไม่ได้ช่วยอะไร แต่ก็อยากขอโทษด้วยใจจริง ๆ มันไม่มีคำพูดไหนจะมาทดแทนได้ แต่ขอให้ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจและจริงใจสักครั้ง ในตอนนี้มันดำเนินมาจนถึงจุดนี้แล้ว มันสายเกินไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้มันผ่านไปแบบนี้ อยากขอโทษ จากใจจริง ๆ ตอนนี้ได้ติดต่อกับทางญาติ และอยากขอแสดงความเสียใจด้วยใจจริงกับครอบครัวมา ณ ตรงนี้ด้วยนะคะ…

ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปรับศพที่แผนกนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยบิดาผู้ตาย กล่าวว่า ทราบจากเพื่อนของลูกชายว่า เกิดจากปัญหาหนี้สินที่ลูกชายไปกู้เงินมาให้เพื่อนซึ่งเป็นสาวประเภทสอง แล้วเพื่อนไม่ยอมใช้หนี้ จนเกิดปัญหาที่ลูกชายต้องมารับผิดชอบแทนจ่ายดอกเบี้ยแทนอาทิตย์ละ 12,000 บาท แต่ลูกชายมีรายได้ไม่เพียงพอเนื่องจากกำลังศึกษาระดับปริญญาโท พ่อและป้าเป็นผู้ส่งเงินมาให้ที่ใช้จ่าย เมื่อแก้ไขปัญหาไม่ได้จึงคิดสั้น ซึ่งพ่อยังติดใจในเรื่องนี้ เพราะปกติลูกชายเป็นคนจิตใจดี ไม่น่าจะคิดสั้น

ขณะที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ คอมพิวเตอร์ของผู้เสียชีวิตเปิดอยู่หน้าเฟซบุ๊กโพสต์ครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 15.43 น.วันที่ 19 ส.ค. 2564 ข้อความว่า เพราะเคยรัก เคยไว้ใจสุดท้ายก็โดน การที่น้องทำแบบนี้ทำให้คนที่เคยช่วยเหลือ ต้องลำบากไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ เพราะน้องเคยยืนในจุดที่ทุกคนเคยให้โอกาสและชื่นชมในความสามารถของน้องมาพอสมควร แต่การเป็นหนี้ก็ต้องคืนต้องจ่ายไม่ใช่เงียบหายแบบนี้ เก่งต้องเก่งทุกเรื่อง ไม่ใช่เก่งเงียบหนีหาย ทุกคนพร้อมรับฟัง แต่สิ่งที่เธอทำตอนนี้คำว่าโอกาสนะตอนนี้ยังไม่มีให้ เพราะให้นึกถึงวันลำบากที่มีคนยื่นมือไปหาด้วยนะ ใช่ที่ทุกคนล้มและลุกได้ไม่อยากซ้ำเติมแต่อยากให้รู้จักความรับผิดชอบในสิ่งที่สร้างไว้ สิ่งดีๆที่เคยทำด้วยกันมันก็คือสิ่งดีๆและทรงจำดีๆ แต่สิ่งไม่ดีที่สร้างให้ก็ต้องตักต้องเตือน 97.8k ไม่มีใครสามารถมาหาใช้แทนเธอได้จริงๆนะ

หากเธอเกลียดคนที่ตักเตือนต่อว่าคุณ หลงระเริงในคำชม จุดจบก็เป็นแบบนี้ ถ้ายังมีคำว่าจิตใจก็ควรกลับมารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น คำว่าอำลาควรอำลาด้วยความคิดถึงไม่ใช่อำลาด้วยความผิดใจ 97.8k ต้องได้คืน ถ้ารักคนที่ชมที่ไม่เคยเตือนน้องรักไปและขอความช่วยเหลือดูตอนนี้เขาเป็นอย่างที่น้องคิดไหม…

พ.ต.ท.ปุณณริศร์ ธรานันทเศรษฐ์ สว.สอบสวน สภ.เมือง จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจทราบว่ามาดามมายมีตัวตนอยู่จริง แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เข้าไปอยู่กับเพื่อนๆ ในกรุงเทพฯ นานนับเดือนแล้ว ซึ่งในจุดนี้หากมีคนแจ้งความเอาผิดมาดามมายตำรวจจึงจะเรียกตัวมาสอบสวนทันที