ศาลอนุญาตฝากขัง ‘ประสพโชค’ คดีจ้างวานฆ่านายก อบต.บางสมบูรณ์

ตำรวจคุมตัว ‘ประสพโชค’ รองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย ฝากขังศาลอาญา ตำรวจคัดค้านการประกันตัวเกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและอาจหลบหนี ขณะที่เจ้าตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อหา

พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามคุมตัว นายประสพโชค นิ่มเรือง รองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย อดีตนายก อบต.บางสมบูรณ์ ปัจจุบันอาชีพ ผู้ช่วย ส.ส. ผู้ต้องหาในคดีจ้างวานกลุ่มมือปืนก่อเหตุขับรถประกบยิง ผศ.ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ที่เพิ่งถูกจับกุมตัวเมื่อวานที่ผ่านมา มายื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน

ในความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และช่วยผู้อื่นซึ่งเป็น ผู้กระทำผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ต้องให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม

ระหว่างนำตัวไปขึ้นรถ นายประสพโชคให้ข้อมูลว่า ไม่ได้มีความเครียดหรือวิตกกังวลใดๆ ที่ถูกดำเนินคดี เมื่อคืนก็นอนหลับได้สบายดี ส่วนทางคดียืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง

ด้าน พต.อ.อนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปรามเปิดเผยว่า หลังจากควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีจ้างวานฆ่านายกอบต.บางสมบูรณ์ จังหวัดนครนายก และข้อหาช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาหลบหนี  ซึ่งใน 2 ข้อหานี้เจ้าตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยังไม่มีพยานหลักฐานใดมายืนยันหักล้าง 

ทั้งนี้ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังได้ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาได้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยการใช้อาวุธปืนสงครามซึ่งมีอานุภาพร้ายแรง ในการก่อเหตุยิงผู้ตายอย่างอุกอาจ ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และเป็นคดีที่มี อัตราโทษสูง

ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ หากผู้ต้องหายื่นคำร้องประกันขอปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น จึงขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว

ซึ่งทางผู้เสียหายก็ร่วมค้านการปล่อยชั่วคราวโดยให้เหตุว่า เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ของผู้เสียหายในคดีและเกรงว่าจะ ไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต