SHARE

คัดลอกแล้ว

โฆษก บช.น. เผยเตรียมเรียกเบนท์ลีย์ มาแจ้ง 3 ข้อหาเพิ่มเติม หลังพบสารเสพติดในเลือด

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานจราจร ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ตามที่เกิดเหตุรถเบนท์ลีย์เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่นเป็นเหตุได้รับความเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.38 น. ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้แถลงความคืบหน้า ให้ทราบเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2566 ไปแล้วนั้น

ล่าสุดจากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม พบว่าผลการตรวจเลือดของผู้ต้องหา มีสารเสพติด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจประกอบไว้เรียบร้อยแล้ว กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงขอประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการเพิ่มเติม โดยขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเรียกตัวผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ได้แก่

1. เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย

2. เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส

3. ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน

สำหรับกรณีข้อหาเสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกอำนาจการสอบสวนของงานควบคุมจราจรทางด่วน 1 นั้น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.จร. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย

ส่วนประเด็นเรื่องของความเร็วนั้น อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐาน หากพบว่าเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป สำหรับกรณีการตรวจสอบรถยนต์เบื้องต้น พบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจของกองพิสูจน์หลักฐานเช่นเดียวกัน ว่ามีการปลอมแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งหรือไม่

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่าทาง บช.น. จะดำเนินการเร่งรัดเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อไป

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ขับรถเบนท์ลีย์ ในข้อหา ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินเสียหาย, ขับรถในขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่าเมาแล้วขับ)

และนำตัวผู้ต้องหาไปทำการฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้  เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมาซึ่งศาลได้พิจารณารับฝากขังตามคำร้อง ต่อมาผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วให้ประกันตีราคา 1 แสนบาท 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า