SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ยกคำร้องขอประกันตัว 6 ตำรวจนาย หลังรับฝากขังคดีเรียกรับผลประโยชน์นักท่องเที่ยวต่างชาติ กรณีดาราสาวไต้หวัน

เวลา 13.50 น. คณะพนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง นำเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง จำนวน 6 นาย ส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอให้ศาลออกหมายขัง และฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 1

ตามคำร้องลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ระบุว่า วันที่ 5 มกราคม 2566 เวลา 00.01 น. เจ้าพนักงานตำรวจทั้ง 6 นาย ที่ถูกกล่าวหา ปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านอยู่บริเวณหน้าถนนรัชดาภิเษก หน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร

จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.27 น. มีนายเป จิง ซือ หรือ สกาย สัญชาติสิงคโปร์ กับพวกรวม 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน โดยสารรถยนต์ยี่ห้อมาสด้าสีแดง คันหมายเลขทะเบียน 4 กส 522 กรุงเทพมหานคร มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหากับพวกตั้งด่านอยู่มีสิบตำรวจเอก ล. ผู้ต้องหาที่ 5 เป็นผู้คัดรถยนต์เข้ามาให้ สิบตำรวจเอก ว. ผู้ต้องหาที่ 6 ตรวจค้นบุคคลในรถ

ผู้ต้องหาทั้ง 6 เชิญ นายเป ขิง ซือ ลงจากรถเพื่อค้นตัว สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นผู้ค้นตัว ส่วนเพื่อนของ นายเป จิง ซือ อีก 2 คน ถูกกลุ่มผู้ต้องหาค้นตัว

การตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 3 อัน สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 กับ ร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 พูดคุยสอบถาม เพื่อขอดูหนังสือเดินทางติดตัวมาด้วย มีเพียงภาพถ่ายหนังสือเดินทางในโทรศัพท์มือถือ สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 กับ ร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 พยายามพูดจาข่มขู่ นายเป จิง ซือกับพวก ว่า กระทำความผิด โดยครอบครองบุหรี่ไฟฟ้ากับไม่พกหนังสือเดินทางพร้อมวีซ่า อ้างว่า จะพาไปสถานีตำรวจ ทั้งที่ไม่มีเจตนาที่จะพาไปจริง กลับข่มขู่ให้นายเป จิง ซือ กับพวก เกิดความกลัว จนกระทั่งสิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 กับ ร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 ปรึกษาและตกลงกันเรียกเงินจากนายเป จิง ซือ กับพวกเป็นเงิน 27,000 บาท

แบ่งเป็นค่าที่พกบุหรี่ไฟฟ้าอันละ 8,000 บาท ทั้งหมด 3 อัน และค่าไม่พกหนังสือเดินทางอีก 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 27,000 บาท นายเป จิง ซือ ยืนยันว่า ตนกับพวกไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะบุหรี่ไฟฟ้าที่ตนกับพวกซื้อ จากร้านที่วางขายของย่ายห้วยขวางไม่ผิดกฎหมาย แต่ด้วยความกลัวและเกรงว่าจะเสียเวลา นายเป จิง ซือ และ น.ส.ชาลีน หรือ อันยู๋ชิง ชาวไต้หวัน จะเดินทางกลับต่างประเทศในคืนวันเกิดเหตุ จึงจำยอมจ่ายเงินจำนวน 27,000 บาท ให้กับ สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องที่ 3 เป็นผู้รับเงินใส่ในกระเป๋าเสื้อนอก นายเป จิง ซือกับพวก ถามสิบตำรวจเอก ป.ว่าตนกลับได้หรือไม่ สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 บอกว่า ต้องสอบถามร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 ก่อน

ผู้ต้องหาที่ 3 และผู้ต้องหาที่ 2 เดินมายังนายเป จิง ซือ กับพวก พร้อมยื่นบุหรี่ไฟฟ้าที่ยึดไว้ตอนแรก ให้นายเป จิง ซือ กับพวก ถือไว้คนละอัน โดยร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้สั่งให้สิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 ใช้ไฟฉายส่อง ขณะสิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 ถ่ายรูปเพื่อให้แสงสว่างในการถ่าย

จากนั้น ร้อยตำรวจเอก ป. ผู้ต้องหาที่ 2 ขออนุญาตให้นายเป จิง ซือ กับพวกกลับไปได้ ภายหลังสิบตำรวจเอก น. ผู้ต้องหาที่ 3 นำเงิน 27,000 บาท ที่ได้รับจากนายเป จิง ซือ มอบให้ร้อยตำรวจเอก ย. ผู้ต้องหาที 1 ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดที่นั่งในรถที่จอดไว้ บริเวณที่เกิดเหตุ รับเงินจำนวนดังกล่าวแล้วนำไปแบ่งในกลุ่มผู้ต้องหาด้วยกัน

ผู้ต้องหาทั้ง 6 เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 คณะพนักงานสอบสวนแจ้ง ข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 6 ซึ่งปรากฏต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 ว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานร่วมปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 66 เวลา 10.30 น. เหตุเกิดบริเวณถนนรัชดาภิเษกหน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย

พนักงานสอบสวนขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 6 มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. 66 ถึงวันที่ 13 ก.พ. 66 และขอคัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราว เกรงว่า จะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีภายหลัง

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิจารณาคำร้องขอฝากขังแล้ว อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 6 ได้ มีกำหนด 12 วัน ส่วนที่ผู้ต้องหาทั้ง 6 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อภาพลักษณ์และกระบวนการยุติธรรมของประเทศโดยรวม อีกทั้งผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และกระบวนการในชั้นสอบสวน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ฝากขัง 6 ตร. คดีรีดเงินดาราไต้หวัน เพิ่มข้อหา ม.149 เรียกรับผลประโยชน์ อัตราโทษสูงสุด ประหารชีวิต

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า