SHARE

คัดลอกแล้ว

ผบช.ภ.1 ยืนยัน ไม่มีนายพล ชื่อย่อ “น.” ขายข้อมูลความลับการสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ ‘แตงโม’ ขณะที่ ทีมโฆษก แถลงความคืบหน้าวันนี้ค้นบ้าน ‘จ๊อบ’ หาสุราที่ดื่มในวันเกิดเหตุ ส่งเนื้อเยื้อแผลที่ขาของดาราสาว ไปตรวจเปรียบเทียบกับหน่วยงานที่ 2 แล้ว ยินดีถ้าหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายจะมาร่วมในคดีนี้ด้วย

วันที่ 7 มี.ค. 2565 ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิต น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ ‘แตงโม นิดา’ นักแสดงสาว ระหว่างนั่งเรือสปีดโบ๊ท เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภาค 1 (ผบช.ภ.1) กล่าวถึงกรณีที่สังคมออนไลน์พูดถึงกรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศนายพล ชื่อย่อ “น” ว่า มีการยุ่งเกี่ยวกับข้อมูลในคดี ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง แต่จะทำการตรวจสอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผบช.ภ. 1 ระบุด้วยว่า ใครจะพูดอะไรก็ขอให้มีพยานหลักฐาน ตำรวจยินดีรับมาประกอบสำนวน

ทีมโฆษก แถลงข่าวทางคดี

ต่อมาเวลา 14.25 น. ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ กองบัญชาการตำรวจภูธร (บช.ภ.1) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผบช.ภ.1 และโฆษก บช.ภ.1 และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าทางคดี การเสียชีวิตของแตงโม นิดา

โดยสรุป พล.ต.ต.อุดร ระบุว่า คดีมีการสอบปากคำพยานแล้ว 65 คน ทั้งประจักษ์พยาน พยานแวดล้อม พยานบุคคล ทั้งที่ให้ความจริงและไม่จริง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับ ‘แตงโม’ มีการสอบ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล, รวมทั้งสอบปากคำ เจ้าของเรือเพิ่มเติม

ขณะที่ วันนี้ตำรวจได้เรียก ‘จ๊อบ’ นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร 1 ใน 5 คนบนเรือลำเกิดเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมนำตัวไปค้นบ้าน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสุราที่เป็นข้อสงสัยว่า สุราที่ใช้ดื่มไปอยู่ที่ไหน อย่างไร ชุดสืบสวนไปค้นเรื่องสุรา ถ้าเรามีประเด็นว่า ถ้าคนบนเรือดื่มสุรา สุราชนิดไหน ประเภทไหน มากน้อย ขนาดไหน สรุปเป็นเหตุให้ถึงกับความเมา แล้วเกิดการทำอะไรต่างๆ เป็นพฤติกรรม หรือเป็นบริบทบนเรือตัวนี้จะเป็นตัวบอกเล่า เพื่อให้เราได้ประกอบถึงบริบทของคนบนเรือทั้งหมดนี่คือสิ่งที่เราพยายามปะติดปะต่อ

“จากภาพที่เห็นในโซเชียลมีการดื่มไวน์ แต่ว่าที่ยึดวันนี้ยังไม่ได้ข้อมูลจากชุดสืบสวนว่าไปค้นที่บ้านนายจ๊อบแล้วให้ข้อมูลว่าวันนั้นเอาเหล้าประเภทไหนไป เพราะเหล้าพวกนี้จะเกี่ยวกับความแรง หนัก เบา ต่างกัน ซึ่งมันจะเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์พฤติกรรมคนบนเรือทั้งหมด เหมือนคนกินเหล้าขาว แชมเปญ บรั่นดี จะมีความแตกต่างเพียงพอและเป็นบริบททำให้คนบนเรือเสียอาการ เสียทรงหรือตอบโจทย์สังคมได้หรือไม่ว่าเหล้าเป็นกระบวนการนำพาให้คนบนเรือเฉไฉมาก มากไปกว่าการเกิดอุบัติเหตุ เราพยายามตอบโจทย์ตรงนี้อยู่” โฆษก บช.ภ.1 กล่าว

พ.ต.อ.จาตุรนต์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่า เบื้องต้นดื่มไวน์ ดื่มแชมเปญ ส่วนสุรา ในเรือมีชั้นสำหรับวางขวดเหล้า เรือไม่ได้ใช้ครั้งแรก เคยใช้มาแล้ว เวลาดื่มเหลือ จะเก็บเอาไว้ในตู้ ทีนี้แต่พอเกิดเหตุ เขาเกรงว่า ถ้าปรากฏว่า มีสุราหลายๆ ชนิดมากเกินไป กลัวว่าจะมีความผิดไหม จะเป็นสาเหตุไหม ประมาณอย่างนี้เลยมีการทิ้ง เรากำลังจะเก็บหลักฐานว่าทิ้งไปอะไรไปบ้าง ส่วนการดื่มมากน้อยอย่างไร

พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูล ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ ในทันทีทันใด หรือช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีการสื่อสารกับใคร ได้เก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด และจะเชิญบุคคลเหล่านั้นมาสอบปากคำในฐานะที่มีการติดต่อสื่อสารกับคนบนเรือนี้ทั้งหมด ซึ่งได้ดำเนินการแล้วทั้งหมด เชื่อว่าอาจมีเป็น 100 คนก็ได้

“บางเรื่องผมขออนุญาตไม่ลงลึก เพราะทนายเขาดูอยู่ อย่างที่บอกผู้ต้องหาปฏิเสธ จะทำอย่างไรให้พยานหลักฐานมัดตัวกับผู้ต้องหาทุกคน แล้วผู้ต้องหาบางคนที่เรายังแจ้ง (ข้อหา) ไม่ถึง จะทำอย่างไรให้ถึง แล้วจะทำให้น้องแตงโม เสียชีวิตอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าถูกกระทำ ตายโดยอุบัติเหตุ หรือตายโดยธรรมชาติก็ตาม” โฆษก บช.ภ.1 กล่าว

“… ประมาทตาย เป็นข้อหาหลัก ณ เบื้องต้นที่เราเจอ ณ วันนี้แต่ส่วนข้อหารองๆ พ.ร.บ.ของเจ้าท่า การใช้เรือ ใบอนุญาต เป็นข้อหาธรรมดาแต่โดยหลักข้อหาประมาทตาย ผมเชื่อในฐานะกลุ่มพนักงานสอบสวน ถ้าวันนี้ศาลอนุมัติให้ออกหมายจับ ผมเชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหามีความผิด เขาจะปฏิเสธยังไงก็ตาม พยานหลักฐานที่ส่งมามีประโยชน์ส่งมาเถอะครับ… จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลย” โฆษก บช.ภ.1 กล่าว

รอผลตรวจเนื้อเยื้อแผลที่ขาจากหน่วยงานที่ 2 

นอกจากนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจเนื้อเยื้อแผลที่ขาของดาราสาวไปตรวจที่ ไปตรวจเปรียบเทียบกับหน่วยงานที่ 2 แล้ว นอกเหนือจาก นิติเวชของโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อดูสาเหตุการตายว่าก่อนหรือหลัง

พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใด แต่ขอวิงวอนอย่าเอาข่าวปลอมหรือไม่จริง หรือใส่ร้ายใคร มันเป็นโทษ เราอาจเป๋ไปแต่ก็กลับมาได้ และกล่าวด้วยว่า จากหลักฐานพยานบุคคลที่เราสอบขณะนี้ ไม่มีชี้นำไปว่าเป็นการธุระจัดหา ล่อลวงพา มอมยา ค้าประเวณี ที่จะส่งไป หลักฐาน ณ วันนี้เบื้องต้นไม่มี

“ผมเชื่อโดยพื้นฐานคนพูดไม่จริง ยังไงก็หลุด ไม่หลุดชั้นพนักงานสอบสวน ก็หลุดชั้นพนักงานอัยการ หรือชั้นศาลเชื่อผม คุณจะเตี๊ยมกันยังไง พนักงานหลักฐานเดี๋ยวมันจำนนกันเอง หลักฐานทางตัวเลข เทคนิคทางโทรศัพท์ ทางกล้อง คนแยกสอบกันเมื่อไหร่ยังไงก็ไม่ตรงกัน ผมยืนยันเลยครับ ฟังเขาสอบแล้วรู้เลยว่า แยกสอบกันข้ามวันข้ามคืนยังไงก็พูดไม่ตรง โกหกไม่เนียนหรอกครับ” โฆษก บช.ภ.1 กล่าว

“แน่นอนว่ามีการโกหกอยู่แล้ว เราถึงเก็บพยานหลักฐานที่มาให้มาเรื่อยๆ ไม่ทิ้งเลย ขอบคุณที่มาเรื่อยๆ จะได้มัดมือเขา เพราะว่า 2 คนมีผู้ต้องหาแล้ว อาจจะมีคนที่ 3 ที่พยายามอยู่ก็ได้ แต่ว่าเรายังไปไม่ถึง ยกตัวอย่างนะครับ มีความพยายามอยู่ว่า ใครจะเป็นคนที่ 3 หรือข้อหาเพียงพอแล้วหรือยัง ที่ประมาทตาย ตอนนี้ 50:50 เพราะยังเก็บรวบรวมแบบเฉียด แต่ยังไม่กล้าฟันธงว่าจะเพียงพอหรือไม่ เพราะอย่างที่บอกทุกคนมีทนายมีคนให้ข้อมูลอยู่เบื้องหลัง แต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานบุคลจะทำให้เรามั่นใจว่า สิ่งที่เราตั้งข้อหาไปแล้ว เขาจะหลุดหรือไม่ แล้วเขาจะฟ้องกลับเราหรือไม่” โฆษก บช.ภ.1 กล่าว

ยืนยันไม่จับผิดตัว กรณีประเด็น ‘โรเบิร์ต’ มีฝาแฝด

ส่วนประเด็นที่ว่าโรเบิร์ต นายไพโรจน์ ตรีกาญจนานันท์ มีฝาแฝด ยืนยันว่า ไม่มีผิดตัวแน่นอน เพราะมีเก็บลายนิ้วมือ และตรวจสอบ

พ.ต.อ.จาตุรนต์ กล่าวเสริมข้อสังเกตที่ว่ามีรูปที่เหมือนโรเบิร์ตผมน้อยกว่าปัจจุบันว่า “ผมเคยสอบถามเขาเรื่องนี้แต่ไม่ได้อยู่ในสำนวน เขาบอกว่า เขาไปทอผมมา เขาเปิดรูปเก่าให้ดู หัวล้าน ผมจะขอเก็บดีเอ็นเอจากเส้นผม เขาหวงมาก เลยเอารูปมาดูกัน”

ตร. เตือนอย่าสร้างกระแส-ทำเรื่องเท็จ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ โฆษกตร. กล่าวว่า แน่นอนว่าเกิดความเสียหายแน่ถ้าเกิดข้อมูลใดก็ตามไม่เป็นความจริง เวลานี้ เกิดกระแสการสร้างเรื่อง จริงบ้าง เท็จจริงบ้างหรือไม่จริงเสียเลย เรื่องนี้ทำให้สังคมเกิดความสับสน บางคนฉกฉวยโอกาสกุเรื่องสร้างเรื่องเพื่อให้ตนอยู่ในกระแสข่าว ตัวเองได้ชื่อเสียง แต่สังคมเกิดความสับสน ที่สำคัญผิดกฎหมาย เราได้ประชุมกัน กำลังติดตามคนกลุ่มนี้อยู่ แล้วถ้าเป็นไปได้ ต้องจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เน้นย้ำว่า ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพราะมีหน่วยงานอื่นตรวจสอบ ค้านกัน ย้ำอีกครั้งว่า ข้อมูลที่ให้ หรือกระแสที่สร้างขอให้เป็นเรื่องจริง เมื่อไหร่ที่ทำเรื่องไม่จริงเป็นสิ่งเสียหายต้องดำเนินคดีโดยเด็ดขาด

“เวลานี้มีคนเอาข้อมูลเท็จมาเผยแพร่ อ้างอิงถึงบุคคลนั้นบุคคลนี้มามีส่วนเกี่ยวข้อง อ้างอิงว่ามีคนนั้นคนนี้เป็นใหญ่เป็นโตว่าอยู่เบื้องหลัง ผมคิดว่าเรื่องอย่างนี้คนจะเผยแพร่ ถ้ากล้าเผยแพร่ คิดดูให้ดี ถ้าเป็นเรื่องเท็จ แน่นอนว่ากฎหมายจะต้องดำเนินการโดยเด็ดขาด” โฆษก ตร.

ส่วนกรณีข่าวที่ว่าจะมีการร้องขอให้ คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มาร่วมตรวจสอบ พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ถ้าใครที่จะมาตรวจสอบต้องมีอำนาจ และมีหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วนกมธ.ของวุฒิสภา สามารถเรียกตำรวจไปชี้แจงได้ แต่ผู้ที่มาร่วมสอบสวนคือพนักงานสอบสวน

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า