รำลึก 3 ปี “หมอกระต่าย” ทางม้าลายยังไม่ปลอดภัย ยื่น 3 ข้อเสนอ ปรับปรุงทางม้าลาย-ลดความเร็ว-ลดค่าใช้จ่ายเหยื่อ

ย้อนรำลึกกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน วันที่ 21 มกราคม 2565 ได้เกิดอุบัติเหตุที่สร้างความสูญเสียและความสะเทือนใจให้กับสังคมไทย เมื่อมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์พุ่งชน “หมอกระต่าย” หรือ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลายเสียชีวิต หน้าสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท ซึ่งแม้ล่วงเลยเวลามากว่า 3 ปีแล้ว แต่ทางม้าลายยังคงไม่ปลอดภัย เสี่ยงอุบัติเหตุในการใช้ข้ามถนนอยู่ ยังมีผู้ใช้ถนนมากมายที่ยังทำผิดกฎหมายจราจรและไม่ตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้คนที่ใช้ทางม้าลายในการข้ามถนน

[ พฤติกรรมการหยุดรถบริเวณทางม้าลาย ปี 65 ยังพบใช้ความเร็วเกินกำหนด โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ]

สสส. และมูลนิธิไทยโรดส์ สำรวจพฤติกรรมการหยุดรถบริเวณทางม้าลาย 12 จุดในกทม.ปี 2565 พบว่า หยุดรถ ลดความเร็วบริเวณทางม้าลาย 11%  ใช้ความเร็วบนทางม้าลายเกิน 30กม./ชม. มากถึง 79% ก่อนถึงทางม้าลาย เป็นรถจักรยานยนต์ถึง 90% รองลงมาคือรถยนต์ และ รถโดยสารสาธารณะ ในกลุ่มผู้ขับขี่ Food Delivery พบว่า 56% จอดล้ำเส้นทางม้าลาย ขับรถด้วยมือข้างเดียว ในขณะที่มืออีกข้างถือโทรศัพท์ ซึ่ง “ความเร็ว” เป็นปัจจัยสำคัญของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนถึง 70% องค์การอนามัยโลกกำหนดว่า การใช้ความเร็วระหว่าง 30 กม./ชั่วโมง ในพื้นที่ชุมชน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด หรือสถานที่ราชการ จะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ถึง 90% การควบคุมความเร็วในพื้นที่เหล่านี้จึงไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ แต่ยังเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องชีวิตผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน 

[ 21 มกราคม “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ทางม้าลายปลอดเหตุ ทั่วประเทศปลอดภัย  ]

เนื่องจากวันที่ 21 มกราคม 2565 เป็นวันที่คนไทยต้องสูญเสียหมอกระต่ายไปอย่างไม่มีวันกลับ จึงมีการกำหนดให้วันที่ 21 มกราคม ของทุกปีให้เป็น “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการสร้างวัฒนธรรมการใช้ถนนอย่างปลอดภัยและยั่งยืน โดยกลุ่มเครือข่ายผู้สูญเสียได้ยื่นข้อเสนอแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุต่อรัฐสภา พร้อมร่วมกันไว้อาลัย จุดเทียนวางดอกไม้ บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ จุดทางม้าลายที่เกิดอุบัติเหตุหมอกระต่าย พร้อมแสดงสัญลักษณ์ เปิดไฟหน้ารถ หรือเปิดไฟฉายที่โทรศัพท์มือถือ เป็นเวลา 1 นาที

“คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินฯ วุฒิสภา สสส. และภาคีเครือข่าย ได้จัดกิจกรรม “หยุดสูญเสีย หยุดรถ ให้คนข้ามทางม้าลาย #ความดีที่คุณทำได้” ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. 2565 – 21 ม.ค. 2566 ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอด 1 ปี เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน โดยอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมูลนิธิเมาไม่ขับ สอจร. ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และภาคีเครือข่ายกว่า 100 องค์กร รัฐบาลจึงได้กำหนดให้วันที่ 21 มกราคม ของทุกปีเป็น วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน ไม่เพียงแต่กรณีของหมอกระต่าย แต่ยังเป็นการรำลึกถึงเหยื่ออุบัติเหตุทางถนน และเตือนใจประชาชนให้ร่วมมือกันสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนทุกเพศ ทุกวัย และผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทอย่างจริงจัง” สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านยานพาหนะเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน รัฐสภา กล่าว

[ แม่ “หมอกระต่าย” ยื่น 3 ข้อเสนอ สร้างทางม้าลายปลอดภัย ]

รัชนี สุภวัตรจริยากุล คุณแม่ของคุณหมอกระต่าย ในฐานะประธานเครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ได้ยื่นข้อเสนอนโยบาย 3 ข้อต่อรัฐสภาและหน่วยงาน ดังนี้

1. สร้างทางม้าลายปลอดภัย และปรับปรุงพื้นที่ทางม้าลายให้เห็นชัดเจน มีสัญญาณป้ายไฟบอกตำแหน่งทางม้าลาย หรือสัญญาณป้ายไฟ ป้ายเตือนลดใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ป้ายตำแหน่งทางข้าม ป้ายระวังคนข้ามถนน หรือตีเส้นซิกแซกสีขาวบนถนน เป็นเครื่องหมายเตือนให้ผู้ขับขี่ระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วง 15 เมตร ก่อนถึงทางข้ามหรือทางม้าลาย เพื่อให้รถลดความเร็ว และควรปรับปรุงทางม้าลายที่อยู่จุดเสี่ยง เช่น หน้าโรงเรียน โรงพยาบาล หน้าสถานที่ราชการ ตลาด
2. การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และกำหนดการใช้ความเร็วในเขตเมืองไม่เกิน 50 กม./ชม.สำหรับรถทุกประเภท
3. ลดค่าใช้จ่ายเมื่อต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ผู้สูญเสียสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเสมอภาค

“แม้สถิติการบาดเจ็บจะลดลง แต่การตายและความพิการยังสูง อุบัติเหตุทำให้เครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุฯ มีสมาชิกเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี นอกจากความสูญเสีย ยังได้รับผลกระทบทางจิตใจ สุขภาพ ความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิต ขาดผู้นำ สูญเสียอนาคตของครอบครัว อุบัติเหตุที่เกิดกับหมอกระต่ายนั้นสร้างความเจ็บปวดแก่ครอบครัว เช่นเดียวกับครอบครัวอื่น ๆ ที่ในแต่ละปีที่มีคนอันเป็นที่รักต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ” คุณแม่ของหมอคุณกระต่าย กล่าว

ทางม้าลายยังคงมีบทบาทสำคัญในเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนเดินเท้า มีไว้เพื่อข้าม มิใช่ถูกมองข้าม หากเพียงผู้ขับขี่บนท้องถนนตระหนักถึงความสูญเสียหากเกิดอุบัติเหตุ เริ่มจากการลดความเร็วในการขับขี่ก่อนถึงทางข้ามหรือทางม้าลาย เสียเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่จะลดความสูญเสียได้อย่างมาก