
ภาพจาก: เพจเฟซบุ๊ก งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2561
กองปราบปราม แนะวิธีลอยกระทงอย่างไรให้ปลอดภัย ได้แก่ ลอยในสถานที่ปลอดภัย ดูแลบุตรหลานใกล้ชิด สวมเสื้อชูชีพ งดเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ และงดปล่อยโคมลอยที่อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ หากฝ่าฝืนโทษสูงจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก กองปราบปราม โพสต์ข้อความแนะนำวิธีการลอยกระทงอย่างไรให้ปลอดภัย โดยระบุว่า “ลอยกระทงปีนี้ คุณจะลอยกระทงกับใครคงไม่สำคัญ เท่ากับลอยกระทงอย่างไรให้ปลอดภัย” ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับเทศกาลลอยกระทง ประเพณีสำคัญของไทย ที่ไม่ว่าวัยไหนๆ ก็ต้องนำกระทงไปลอยในแหล่งแม่น้ำลำคลอง เพื่อสืบสานประเพณีไทย แต่รู้หรือไหมว่าภัยจากเทศกาลลอยกระทงก็เกิดขึ้นได้ หากเราไม่ระมัดระวัง
ทางกองปราบปราบจึงขอเสนอวิธีการป้องกันภัยจากเทศกาลลอยกระทงให้ประชาชนได้ทราบกัน ดังนี้
ข้อควรระวัง
- ลอยกระทงในสถานที่ที่ปลอดภัย เช่น ท่าน้ำที่มีความแข็งเเรง มีที่กั้นหรือราวจับ
- ดูแลบุตรหลานหรือเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุเด็กจมน้ำ หรือพลัดหลง
- หากลอยกระทงกลางแม่น้ำ หรืออยู่ในเรือ แนะนำให้สวมเสื้อชูชีพ
ข้อห้าม
- งดเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ที่อาจจะก่อให้เกิดอันตราย
- งดปล่อยโคมลอย ที่อาจจะส่งผลทำให้เกิดเพลิงไหม้
ทั้งนี้ การจุดและปล่อย บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใด ขึ้นไปสู่อากาศ โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 33 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562