CureVac รายงานผลทดสอบ วัคซีนชนิด mRNA ตัวใหม่ ต้านอาการป่วยเพียง 48%

เคียวแวคของเยอรมันเปิดผลการทดสอบวัคซีนในขั้นตอนสุดท้าย เผยเป็นข้อมูลที่เจอกับเชื้อกลายพันธุ์ถึง 15 สายพันธุ์

วันที่ 1 ก.ค. 2564 เคียวแวค (CureVac) ผู้พัฒนาวัคซีนสัญชาติเยอรมนี เปิดเผยผลการทดสอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA หลังจากนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในขั้นสุดท้าย พบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดอาการของโรคอยู่ที่ 48% 

ดังเลขดังกล่าวนับว่าต่ำกว่าผลการทดสอบของวัคซีน mRNA ตัวอื่นอย่างไฟเซอร์ (Pfizer) และ โมเดอร์นา (Moderna) ที่สามารถป้องกันได้ราว 95% จากการทดสอบในปีที่แล้ว

ทางเคียวแวคระบุในแถลงการณ์ว่า ระหว่างการทดสอบตัวอย่างวัคซีนตัวนี้ กลุ่มที่เข้าร่วมการทดสอบจำนวน 40,000 คนจากหลายประเทศ ต้องเผชิญกับเชื้อกลายพันธุ์มากถึง 15 สายพันธุ์ โดยที่มีการตรวจพบเชื้อกลายพันธุ์ถึง 86% ในกลุ่มทดลอง ขณะที่ในปีก่อน ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นาไม่ได้เจอกับการระบาดเป็นวงกว้างของเชื้อกลายพันธุ์ในช่วงที่ทำการทดสอบ

แม้ประสิทธิภาพโดยรวมจะไม่ถึง 50% ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แต่หากวิเคราะห์เฉพาะข้อมูลในกลุ่มอายุ 18-60 ปี จะสามารถป้องกันได้ 53% ซึ่งเป็นตัวเลขที่รวมหลายสายพันธุ์เข้าไปแล้ว ป้องกันการเกิดอาการในระดับกลางถึงรุนแรงได้ 77% และยังสามารถลดอัตราการเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ 100%

สำหรับขั้นตอนในการขออนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicines Agency – EMA) ได้เริ่มขั้นตอนการพิจารณาตามข้อมูลที่มีอยู่ ตั้งแต่เดือนก.พ. ที่ผ่านมาแล้ว และทางเคียวแวคจะนำเสนอข้อมูลล่าสุดนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการต่อไป