วันที่ 15 มิ.ย. ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึง การยกเลิกเคอร์ฟิว 23.00-03.00 น.เมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นคืนแรกว่า เมื่อคืนมีเด็กแว้นออกมาขี่รถในช่วงกลางคืน สังคมและผู้ปกครองต้องช่วยกัน ถ้าเป็นอย่างนี้เดี๋ยวก็กลับมาประกาศเคอร์ฟิวใหม่ หากทุกคนยังไม่รู้จักควบคุมตนเอง

ส่วนสถานประกอบการทั้งหมดต้องช่วยกันดูแลตามมาตรการของรัฐ ตนขอขอบคุณที่บางแห่งที่มีมาตรการออกมาเพิ่มเติมเองถือว่าช่วยชาติ ประชาชนและช่วยธุรกิจของตนเอง ส่วนที่ไม่ยอมทำอะไรเลยจะทำแบบเดิมทั้งหมด แบบนี้ควรจะปลดล็อกให้หรือเปล่า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลดูแลระดับนโยบายโดยการผ่อนปรนที่ผ่านมาดำเนินการมาตามลำดับจนสถานการณ์ดีกว่าหลายประเทศ แต่ทั้งหมดก็เพราะความร่วมมือของประชาชน ดังนั้นหากรัฐบาลผ่อนปรนไปแล้วแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จะให้ทำอย่างไร หรือให้ทุกอย่างกลับไปอยู่ที่เดิม ที่ตนเป็นห่วงคือตรงนี้ไม่อยากให้ทุกอย่างกลับที่เดิม
เศรษฐกิจก็สำคัญ สุขภาพก็สำคัญ เมื่อพิจารณาผ่อนคลายระยะที่ 4 ไปแล้วก็ต้องกลับมาดูว่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่ วันนี้เราโชคดีที่ว่าเป็นการแพร่ระบาดมาจากต่างประเทศที่อยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ ซึ่งมาจากการที่เราตั้งขึ้นมาทำให้ควบคุมได้ในตอนนี้ โดยตอนแรกส่วนใหญ่ก็ไม่ยินยอมกัน และในวันนี้ก็ได้เห็นแล้วว่าที่เราทำนั้นมีประโยชน์
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ในขณะนี้อาจจะไม่เสรี 100% ด้วยข้อจำกัดทางด้านสุขภาพ
เมื่อถามย้ำเรื่องการต้องมีมาตรการดูแลเด็กแว้นเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบเสียงดังว่า ก็ตอบไปแล้วไม่ได้ยินเหรอ เจ้าหน้าที่ปกติมีอยู่แล้วก็ให้จับไป เดิมไม่ต้องมีเคอร์ฟิวก็จับอยู่แล้ว จากนี้จะให้จับติดคุกเลยแล้วจะประกันตัวก็ว่ากันอีกที เพราะยังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ การที่เด็กแว้นออกมาเป็นการสร้างความรำคาญให้กับคนอื่นและแพร่เชื้อ ส่วนด่านที่เดิมเป็นด่านเคอร์ฟิวก็ให้ปรับเป็นด่านจับเด็กแว้น