สรุปคดี แม่ค้าฉ้อโกงหลอกขายมือถือเด็กชาย สะท้อนประสิทธิภาพการปราบอาชญากรรมไซเบอร์ล้มเหลว

นักอาชญาวิทยา เผย เคสเด็กนักเรียนถูกหลอกซื้อมือถือผ่านออนไลน์ สะท้อนคดี ฉ้อโกงขายของออนไลน์ ช่วงโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า แนะภาครัฐดันคนมีศักยภาพ มีความรู้ด้านอาชญากรรมไซเบอร์ เร่งแก้ปัญหา ยกเคสล่าสุดย้ำให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่แก้ปัญหาแบบไฟไหม้ฟาง

วันที่ 25 ก.ย. 2564 รศ.พ.ต.ท.กฤษณพงค์ พูตระกูล ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ม.รังสิต ให้สัมภาษณ์ workpointTODAY สะท้อนปัญหาคดี ฉ้อโกงขายของออนไลน์ ที่ล่าสุดเกิดขึ้นกับเด็กชายวัยเพียง 14 ปี จ.เชียงใหม่ หวังจะซื้อมือถือ ยี่ห้อไอโฟนมือสอง เพื่อเรียนออนไลน์ ผ่านร้านค้าออนไลน์แต่กลับโดนโกงเงินจนเครียด เส้นเลือดในสมองแตกและเสียชีวิตในที่สุด สะท้อนให้เห็นว่าภาครัฐยังไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างจริงจัง
1. มาตรการหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานเกี่ยวข้องที่จะให้องค์ความรู้กับประชาชน รวมถึงการปราบปรามยังทำได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

2. ยังเน้นการแก้ไขปัญหาแบบไฟไหม้ฟาง แต่ไม่ได้แก้ปัญหาเชิงระบบ ข้อมูลจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) และข้อมูลจากตำรวจสากล พบว่ามีการหลอกลวงฉ้อโกงออนไลน์ โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 มากกว่าที่ผ่านมา 2-3 เท่า แต่ยังไม่ดำเนินการแก้ไขให้กับประชาชนอย่างจริงจัง

3. ไม่มีแพลตฟอร์มในการรับแจ้งเบาะแสหรือว่าสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำความในลักษณะนี้อย่างจริงจัง

“เรามีแต่เบอร์โทรของหน่วยงานภาครัฐ แต่สุดท้ายก็ส่งเรื่องต่อไปหน่วยงานตำรวจ เมื่อลองดูการทำงานของตำรวจ ทั้งกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) ยิ่งมีปัญหาเรื่องการขาดเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ แต่กลับมีการแต่งตั้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ไม่ตรงสายงานเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ จึงทำให้นโยบายที่ดำเนินการเรื่องนี้ไม่ต่อเนื่องจริงจัง” รศ.พ.ต.ท.กฤษณพงค์ กล่าว

รศ.พ.ต.ท.กฤษณพงศ์ กล่าวอีกว่า การจะแก้ไขปัญหานี้ได้ต้องยอมรับความจริง ต้องจริงใจจะแก้ปัญหา ต้องพัฒนาบุคลากรขึ้นมาให้เยอะมากขึ้น ทั้งด้านไอที อาชญากรรมไซเบอร์ เพื่อป้องกัน เฝ้าระวัง สืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิด

สรุปปม #Phonebymint ปัญหาฉ้อโกงออนไลน์ สู่ความสูญเสียกับเด็กชายวัย 14 ปี

1. 19 ก.ย. 2564 เพจเฟซบุ๊ก ‘ครูอินดี้’ โพสต์ภาพงานศพเด็กนักเรียนชาย ม.2 ถูกแม่ค้าออนไลน์โกง หลังสั่งซื้อไอโฟนมือสอง ราคา 5,000 บาท เพื่อนำมาเรียนออนไลน์ แต่เมื่อโอนเงินไปให้เสร็จ กลับถูกบล็อก ติดต่อไม่ได้ ทำให้เด็กชายเครียด เส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต โดยทางเพจระบุว่า ได้รับแจ้งเหตุการณ์ดังกล่าวจากครูที่เคยสอนเด็กชายผู้เสียชีวิต

2. ครูที่สอนอยู่โรงเรียนเก่าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตอายุ 14 ปี ศึกษาอยู่ที่ รร.เชียงดาววิทยาคม อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พักอาศัยกับน้องชายคนเล็กวัย 3 ขวบกว่า โดยมีป้าคอยดูแลแต่อยู่บ้านคนละบ้าน ส่วนพ่อแม่ไปทำงานที่ จ.ลำพูน

3. ครูเล่าต่อว่า ย้อนกลับไปเมื่อ วันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตซื้อมือถือผ่านแม่ค้าออนไลน์ เป็นร้านค้าบนอินสตาแกรม ชื่อว่า “Phonebymint” เพราะเครื่องเก่าใช้กับการเรียนออนไลน์ได้ไม่ดี ยี่ห้อไอโฟน 7 มือสอง ขนาด 32 กิกะไบต์ ตกลงราคาอยู่ที่ 5,000 บาท

4. ผู้เสียชีวิตติดต่อขอเงินจากพ่อ จึงโอนเงินมาให้จากนั้นผู้เสียชิวตโอนเงินให้ร้านขายมือถือดังกล่าว แต่แม่ค้ากลับบล็อกทันที จนผู้เสียชีวิตเกิดอาการเครียด มีอาการปวดหัว นอนไม่หลับ เพื่อนๆ นำตัวส่งโรงพยาบาล แต่อาการกลับทรุดหนัก หมอแจ้งว่าไม่สามารถช่วยได้จึงรับกลับบ้าน กระทั่งเสียชีวิต วันที่ 17 ก.ย. 2564 จากอาการ ‘เส้นเลือดในสมองแตก’

5. ญาติผู้เสียชีวิตไปแจ้งความที่ สภ.นาหวาย จ.เชียงใหม่ ตำรวจรับไว้เป็นคดี พร้อมนำหลักฐานการคุยแชทระหว่างผู้เสียชีวิตกับแม่ค้ามิจฉาชีพที่ใช้ชื่ออินสตาแกรม phonebymint ให้ตำรวจ บางช่วงบางตอนการสนทนา ผู้เสียชีวิต ยืนยันการซื้อหลายครั้ง และถามแม่ค้าว่า “ไม่โกงใช่ไหม” จากการตรวจสอบ เหยื่อของแม่ค้ารายนี้มีกว่า 500 คน หลังหลอกเสร็จจะเปลี่ยนหน้าโปรไฟล์ไปเรื่อยๆ พ่อบอกลูกชายโทรมาปรับทุกข์ตลอดก่อนเสียชีวิต

6. วันที่ 24 ก.ย. 2564 พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ระบุ จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย น.ส.นฤมล อายุ 18 ปี และ น.ส.สายน้ำผึ้ง อายุ 19 ปี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลบิดเบือนหรือปลอมรุ่น ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ทั้ง 2 ให้การว่ามีหน้าที่เปิดบัญชีเท่านั้น แต่ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 ราย น.ส.พิยดา อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ในขบวนการนี้

7. ตำรวจเผยวิธีการตามสืบ จากอินสตาแกรมของผู้ต้องหาและใช้การดัก Traffic เช็กจนรู้ข้อมูลว่าไปที่ไหน จากการตรวจสอบ ผู้ต้องหา2 รายที่จับกุมมีหน้าที่เปิดบัญชีเท่านั้นให้ น.ส.พิยดา ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นบ้านแฟน น.ส.พิยดา ไม่พบตัวแต่กลับพบทรัพย์สินที่ได้จากการฉ้อโกง รถยนต์ BMW, กระเป๋าแบรนด์เนม 10 กว่าใบ, คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง, ตู้นิรภัย (ยังไม่ได้เปิด) นอกจากนี้ยังพบว่าเคยต้องคดีความผิดในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก

8. ปปง. มีคำสั่งยึดทรัพย์ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ ตัวการใหญ่คดีหลอกขายมือถือ โดยมีราชกิจจานุเบกษา ประกาศวันที่ 20 ก.ย. ให้อายัดทรัพย์และให้ผู้เสียหายยื่นเอกสารคุ้มครองสิทธิ์ได้

9. ผู้ใช้โซเชียลแฉพฤติกรรมผู้ต้องหา #phonebymint อ้างว่ามีพฤติกรรมโกงเงินลักษณะนี้มากว่า 5 ปี มีเงินหมุนเวียนหลักสิบล้านบาท จ้างคนเปิดบัญชี โดยพบมีเกือบ 20 บัญชี และยังพบแอคเคาท์ที่ใช้หลอกขายสินค้านับไม่ถ้วน

10. มีเว็บไซต์ www.blacklistseller.com ซึ่งได้รวบรวมรายชื่อ พ่อค้าแม่ค้าที่มีประวัติการโกงบันทึกไว้ คลิกไปที่ ตรวจสอบบัญชี/ผู้ขาย กรอกข้อมูลผู้ขาย เช่น เลขบัญชีธนาคาร เบอร์ ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน (กรอกอย่างใดอย่างหนึ่ง) จะพบข้อมูลที่ค้นหาว่าผู้ค้ามีประวัติโกงหรือไม่โกง และสามารถแจ้งชื่อคนโกงเพิ่มข้อมูลเข้าไปได้อีกซึ่ง Phonebymint ถูกแบล็กลิสต์ในเว็บไซต์นี้ด้วย