อดีตกำนันทวงหนี้ 13 ล้านไม่ได้ กะยิงทิ้งทั้งบ้าน เด็กวิ่งหนีรอด 2 คน

วันที่ 9 พ.ย. ร.ต.อ.นันทิยา รักดี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่บ้านใน ซอยขุนศรี ตำบลขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคพล ทวิสศรี รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ต.ชนะภัย บุญนาค สวป.สภ.เมืองชุมพร กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลชุมพร หน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ภายในสวนปาล์มน้ำมันและทุเรียน พบศพนางจินดา ทองพรหม อายุ 61 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ศีรษะ 1 นัด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ใต้ชุดรับแขกเก้าอี้ไม้ มีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ท้ายรถยนต์จำนวน 2 ปลอกใกล้กับกองเลือดและตกเกลื่อนในบ้านอีกจำนวนมาก

ห่างกันประมาณ 2 เมตร พบศพนางพรทิพย์ ทองพรหม อายุ 38 ปี ถูกยิงที่บริเวณศีรษะ 1 นัด ส่วนที่บริเวณใต้โต๊ะอาหารภายในครัวพบร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 รายคือ ด.ญ นัยปพร ภูวิชิต อายุ 14 ปี รวมผู้เสียชีวิต 3 ราย ทั้งหมดเป็นภรรยา ลูกและแม่ยายนายอานนท์ ภูวิชิต อายุ 38 ปี

จากการสอบสวนนายอานนท์ ทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย นางจินดา (ผู้เสียชีวิต) แม่ยาย นางพรทิพย์ (ผู้เสียชีวิต) ภรรยา ด.ญ.นัยปพร (ผู้เสียชีวิต) ลูกสาวคนกลาง และลูกสาวคนโต อายุ 15 ปี และลูกชายคนเล็ก อายุ 12 ปี โดยช่วงเช้านายอานนท์ออกไปทำงาน ทุกคนในบ้านกำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่ในครัวได้มีนายสุนันท์ รามดอน อดีตกำนัน ต.ขุนกระทิง เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าวพร้อมกับเรียกให้นางจินดาและนางพรทิพย์สองแม่ลูกออกมาคุยตกลงเรื่องเงินที่ติดค้างกันไว้

ลูกสาวคนโตและลูกชายคนเล็กวิ่งหนีรอดได้หวุดหวิด

สักพักเกิดทะเลาะเสียงดังทำให้อดีตกำนันโมโหชักปืนพกขนาด 9 มม.จ่อยิงรัวถูกศีรษะ ลำคอ แขนขวา และหัวไหล่ นางจินดารวม 4 นัด ขณะนางพรทิพย์กำลังจะวิ่งหนีอดีตกำนันจึงหันปลายกระบอกปืนยิงไปที่นางพรทิพย์ ที่ศีรษะ 2 นัด และตามไปยิง ด.ญ.นัยปพร ขณะนั่งกินข้าวอยู่ในครัวเข้าตามลำตัวและศีรษะจำนวน 5 นัดเสียชีวิตคาสำรับข้าว ส่วน เด็กหญิงอายุ 15 ปีและเด็กชายวัย 12 ปี วิ่งหนีรอดมาได้

ต่อมาอดีตกำนันผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวพร้อมทั้งอาวุธปืน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้สอบปากคำอย่างเคร่งเครียดถึงปมการสังหารในครั้งนี้

ด้าน พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ตร.ชุมพร กล่าวว่า ครอบครัวผู้ตาย ได้ยืมเงิน อดีตกำนันไปรวม 13 ล้าน ตั้งแต่ ปี 2557 ทางนายสุนันท์ ได้มาทวงถามถึงเรื่องเงินทั้งหมด เพื่อจะขอคืน แต่ทางนางจินดา ก็บ่ายเบี่ยง และล่าสุดเมื่อสองวันที่ผ่านมา ซึ่งคำให้การตรงกับนายอานนท์ ลูกเขย ว่านายสุนันท์ ได้มาที่บ้านและได้พูดคุยเรื่องเงินอีก และนางจินดา ได้นัดว่าวันนี้ จะมีลูกหนี้โอนเงินมาให้ตอนเช้า นายสุนันท์ เลยเดินทางมาติดตาม แต่ถูกปัดอีกจึงบันดาลโทสะ ใช้อาวุธปืนที่พกมากระหน่ำยิง ส่วนเด็กนั่งกินข้าวในบ้าน 3 คน กำนันเดินเข้าไปตั้งใจยิงปิดปากทั้ง 3 คน แต่ สามารถวิ่งหนีไปได้ 2 คน

สำหรับครอบครัวผู้ตายมีอาชีพทำสวนทุเรียนและสวนกล้วยหอมทอง ส่วนการกู้ยืมเพื่อนำไปไปปล่อยกู้กินดอกเบี้ย แต่ไม่สามารถเก็บเงินคืนกำนันได้ จนมีหนี้สินพอกพูนร่วม 13 ล้านบาท เมื่อมาทวงถามหลายครั้งก็มักจะได้รับการปฏิเสธเสมอ ทำให้เป็นที่มาของการก่อเหตุ