เดียร์ลอง OnlyFans ถูกดูดคลิปไปขายต่อ ใครผิด?

#เดียร์ลอง ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ ถูกพูดถึงอย่างมากหลังโดนดูดคลิปจาก OnlyFans ไปขายต่อ ก่อนถูกตำรวจเรียกตรวจสอบ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าแบบนี้ใครผิด

• #เดียร์ลอง ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ 

เดียร์ลอง ยูทูบเบอร์และสตรีมเมอร์สาย ASMR และSex Creator  ถูกพูดถึงบนโลกโซเชียล หลังจากถูกดูดคลิปเซ็กซี่จากแพลตฟอร์ม OnlyFans โดยคนดูดคลิปออกไป มีทั้งนำไปเผยแพร่ให้ดูฟรีๆ บนโลกออนไลน์ และนำคลิปไปขายต่อ

ซึ่ง OnlyFans ผู้ที่สนใจจะกดเข้าไปรับชมจะต้องจ่ายเงินสมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับชมคลิป การที่ถูกดูดคลิปออกไปทำให้ Sex Creator เสียรายได้ อีกทั้งการนำคลิปไปโพสต์ในออนไลน์ ทำให้เธอถูกพูดถึงอย่างหนักถึงความเหมาะสมและถูกนำไปล้อเลียนทำมีมต่างๆ จนเมื่อคลิปถูกเผยแพร่ในวงกว้าง จึงรู้ถึงตำรวจ

• กระแสตีกลับหลัง ตำรวจเตรียมเรียกสอบ

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าในส่วนของคลิปลามกอนาจารดังกล่าว ขณะนี้ต้องขอตรวจสอบก่อน ว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดในฐานความผิดใดบ้าง หากพบว่าคลิปดังกล่าวเข้าข่ายลามกอนาจารถึงขั้นผิดกฎหมาย จะเรียกเจ้าตัวมาสอบปากคำ แจ้งข้อหาดำเนินคดี

ส่วนผู้ที่เผยแพร่คลิปดังกล่าวในอินเทอร์เน็ต ก็จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ไปด้วย

จากนั้นทำให้โลกออนไลน์มีการถกเถียงเรื่องนี้อย่างมาก โดยบางคนมองว่า 

คนที่สมควรถูกจับคือคนที่ดูดคลิปมาปล่อย มาขายต่อ เพราะคนทำคลิปถือว่าเป็นสิทธิ์ในร่างกายของเค้า

บางส่วนระบุว่า คลิปน้องเดียร์ลองไม่ใช่คลิปสาธารณะ ไม่ถือเป็นการทำอนาจาร ไม่ใช่สื่อลามก คนที่เอาคลิปน้องเค้าไปปล่อยต่างหากที่เป็นคนกระทำผิด

ขณะที่หลายๆ คน ขอให้หยุดดูดคลิป ขอคลิปหรือหยุดล้อเลียนโดยการไปทำมีมต่างๆ  ขอให้เคารพในสิทธิของคนอื่น

กระแสบางส่วนตีกลับไปทางตำรวจ โดยระบุว่าถ้าตำรวจไม่ออกแถลงเรื่องก็เงียบ โดยอยากให้จัดการแบบเงียบๆ จะได้ไม่ทำให้ เดียร์ลอง เสียหาย

บางรายบอกว่าอยากให้ Sex Worker หรือ Sex Creator ถูกกฎหมาย เพราะก็คืองานๆหนึ่ง และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

• เทียบเคสไข่เน่า ดาว OnlyFan

ย้อนกลับไปช่วงเดือน ก.ย.2564 พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์พบว่า มีผู้ใช้ยูสเซอร์ชื่อว่า ‘ไข่เน่า’ ผลิตคอนเทนต์แนวคลิปวิดีโอในลักษณะการร่วมเพศกับแฟนหนุ่มเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ดังกล่าว โดยเก็บค่าสมาชิกเป็นรายเดือน หรือรายคลิป และยังไปออกรายการรายการหนึ่งในช่องยูทูบ โดยมีการพูดลักษณะเข้าข่ายการเชิญชวนให้ผลิตคลิปในลักษณะเดียวกันลงใน OnlyFans ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหลายข้อหา

ต่อมา ไข่เน่า พร้อมแฟนหนุ่มเข้าพบตำรวจ โดยพล.ต.ท. กรไชย บอกว่ากรณีของน้องไข่เน่าไม่สามารถปล่อยผ่านกรณีเพื่อความถูกต้องในศีลธรรมอันดีของประเทศไทย ซึ่งส่งผลต่อเยาวชนที่จะเติบโตมา ถือเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู

สำหรับน้องไข่เน่าและแฟนหนุ่ม ถูกดำเนินคดีข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาร่วมกันทำผลิต มีไว้ หรือนำเข้าหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ อันลามก เพื่อความประสงค์แห่งการค้าเพื่อแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงแก่ประชาชน มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งน้องไข่เน่าให้การภาคเสธว่าไม่ได้ทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะกระทำในกลุ่มปิด

ต่อมา วันที่ 16 พ.ย. 2564 ไข่เน่าและกลุ่ม กลุ่มเจริญ Porn เข้ายื่นเอกสารร่างกฎหมาย ม.287 พร้อมรายชื่อผู้สนับสนุนในการแก้ให้หนังโป๊ถูกกฎหมาย ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยมี นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับเอกสาร 

ไข่เน่ากล่าวว่าตนเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายมาตรา 287 การที่ตนออกมากับการแก้กฎหมายไม่ใช่ว่าเพื่อตนเองแค่คนเดียว แต่อยากให้คนที่เป็นผู้ขายบริการทางเพศได้รับการคุ้มครองที่ดีมากกว่านี้ อย่างน้อยก็อยากให้เขาได้รับสวัสดิการที่ดีขึ้น รวมไปถึงการคัดกรองเด็กและเยาวชนที่จะเข้ามาทำอาชีพนี้

• Sex Creator ยังไม่ถูกกฎหมายในไทย

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวกับ workpointTODAY ว่า กรณี OnlyFans หรือ Sex Creator ในประเทศไทยยังถือว่าผิดกฎหมาย 

เนื่องจากเป็นการนำภาพหรือคลิปของตนเองในลักษณะลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ที่มีการเรียกเก็บค่าเข้ากลุ่ม ทำให้ได้รับประโยชน์ใดๆ จากผู้อื่นเป็นค่าตอบแทน ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 เพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสิ่งอื่นใดอันลามก

“ในเมื่อกฎหมายบัญญัติให้เป็นความผิด ตำรวจก็ต้องบังคับใช้ตามกฎหมาย แม้หลายๆคนจะมองว่าเป็นสิทธิในร่างกายของเขาก็ตาม” 

ส่วนคนที่ดูดคลิป หากมีการนำไปปล่อยในโซเชียลที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 14 (4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้