สหรัฐฯ ชี้ ‘โควิดเดลตา’ ครองโลกแล้ว ยันวัคซีน ‘ไฟเซอร์-โมเดอร์นา’ รับมือได้

สหรัฐฯ ชี้โควิดสายพันธุ์เดลตากลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้วตอนนี้ พร้อมๆ กับจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ย้ำ ‘ไฟเซอร์-โมเดอร์นา’ รับมือไวรัสสายพันธุ์นี้ได้  

วันที่ 17 ก.ค. 2564 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (ซีดีซี) แถลงเมื่อวานนี้ (16 ก.ค.) ว่า โควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดอยู่ทั่วโลกในขณะนี้ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆ กับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึง 70% และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 23% โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐฯ มากกว่า 26,000 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย, ซึ่งมียอดผู้ป่วยรายใหม่ราว 11,000 ราย โดยพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูง ได้แก่ รัฐอาร์คันซอ ฟลอริดา ลุยเซียนา มิสซูรี และเนวาดา ซึ่งล้วนเป็นรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย  

นางโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการซีดีซี กล่าวว่า “สถานการณ์ในขณะนี้ได้กลายมาเป็นการแพร่ระบาดในกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน” พร้อมเสริมว่า 97% ของผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

นอกจากนี้ ผอ.ซีดีซียังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยระบุว่าวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นานั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา

ด้านนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาเปิดเผยในลักษณะเดียวกันว่า ปัจจุบันโควิดสายพันธุ์เดลตาที่ติดต่อกันได้ง่ายกว่าสายพันธ์ุดั้งเดิมนั้น ถูกพบในราว 100 ประเทศ และขณะนี้ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วโลกแล้ว พร้อมกับย้ำว่า “เรากำลังเผชิญกับสายพันธุ์ที่น่าเกรงขาม”