สหพันธ์การขนส่งฯ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ เรียกร้อง 5 ข้อ จี้อุ้มดีเซลต่อ 30 บาท/ลิตร เปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ขู่หากปล่อยลอยตัว ขึ้นค่าขนส่ง 20%
วันที่ 27 เม.ย. 2565 นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนของสมาคมขนส่งนัดรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผ่านนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลทบทวนแนวทางการแก้ปัญหาราคาน้ำมันดีเซล
สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เรียกร้อง 5 ข้อ ให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ราคาขายปลีกไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรเป็นระยะเวลา 1 ปี ปรับปรุงโครงสร้างน้ำมันให้มีความเป็นธรรม ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลให้เหลือ 20 สตางค์ เป็นระยะเวลา 1 ปี และยืนยันจุดยืนเดิมคือ ขอให้เปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้
ทั้งนี้ ตามที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ระบุเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า การตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร จะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ และตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ภาครัฐจะปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเป็นขั้นบันได โดยอ้างอิงราคาน้ำมันดิบตลาดโลก และจะช่วยเหลือ 50% ของราคาน้ำมันดีเซลในส่วนที่เกิน 30 บาทนั้น
สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยรวมถึงเครือข่ายพันธมิตรที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น เห็นว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนเป็นวงกว้าง อาทิ ประชาชนผู้บริโภคน้ำมัน ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ผลิต ต้องแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เป็นต้น ซึ่งโดย
ข้อเท็จจริงแล้วยังมีแนวทางอื่นๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและทำให้รัฐบาลสามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 25 – 30 บาท ต่อลิตรได้
สหพันธ์ฯ ขอเสนอแนวทางปฏิบัติการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันดีเซล ดังนี้
- ขอให้รัฐบาลและกระทรวงพลังงานตรึงราคาน้ำมันดีเซล ราคาขายปลีกไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 1 ปี
- ปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมันให้เป็นธรรม โดยตัดไบโอดีเซล (B100) ออกจากสูตรน้ำมันดีเซล ซึ่งจะช่วยปรับลดราคาน้ำมันดีเซลได้ประมาณ 1.50 – 2 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี
- ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลให้เหลือ 20 สตางค์ เป็นระยะเวลา 1 ปี
- ยกเลิกการใช้ฐานอ้างอิงน้ำมันสำเร็จรูป โรงกลั่นสิงคโปร์ เนื่องจากมีค่าขนส่งและค่าประกันภัยรวมอยู่ด้วย
- พิจารณาปรับเปลี่ยนการบริหารงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน