SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ภูมิธรรม’ เผย เลื่อนถก ‘บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต’ วันนี้ออกไปก่อน รอความเห็น ป.ป.ช. ยังยืนยันไทม์ไลน์เดิม ขอทุกฝ่ายอยู่กับความเป็นจริง ช่วยให้ประเทศหลุดพ้นวิกฤติ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยก่อนเปิดประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (16 ม.ค. 67) แทนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่ติดภารกิจในต่างประเทศว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่าน Digital Wallet ในวันนี้ (16 ม.ค.) ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากได้รับทราบมาว่าจะมีหนังสือความเห็นเกี่ยวกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาด้วย จึงอยากนำความเห็นจากทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา และป.ป.ช. เข้าสู่ที่ประชุมพร้อมกัน จะได้ดูข้อเสนอแนะว่าเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร

“แน่นอนว่าความเห็นจาก 2 หน่วยงาน มีน้ำหนักเท่ากัน ภายใต้เงื่อนไขของการวิจารณ์เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ แต่หากไม่ตรงก็จะใช้ประกอบการพิจารณาให้มากขึ้น ยืนยันเดินหน้าทำโครงการนี้เพราะเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา แต่ยังไม่แน่ใจว่าความเห็นของ ป.ป.ช. จะมาเมื่อไหร่ คาดว่าจะได้ประชุมคกก. ดิจิทัลชุดใหญ่ หลังประชุมครม. สัญจรที่จังหวัดระนอง ส่วนเอกสารจากป.ป.ช. จะเปิดเผยได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเอกสารลับหรือไม่” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เนื่องจากว่าประเทศอยู่ในสภาวะวิกฤต แต่ข้อจำกัดเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้โครงการนี้สะดุด นักวิชาการก็สามารถมองแตกต่างกันได้บนพื้นฐานความเดือดร้อนของประชาชน หลายบริษัทต้องปิดตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจย่ำแย่ การกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้วงจรในระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกัน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และการจ้างงาน ไทยซึ่งอยู่ในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม แต่ต้องเดินหน้าขับเคลื่อนไปได้ เป็นทุนนิยมที่มีหัวใจ

นายภูมิธรรม ย้ำว่า โครงการนี้พุ่งเป้าไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่การกู้เงินมาแจก ภายใต้โครงการนี้ยังมีโครงการของรัฐบาลอีกหลายอย่างที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

“ขออย่านำวิชาการมาถกเถียงกัน ให้นำมาเป็นข้อเสนอแนะให้กับโครงการ โดยใช้กรอบวิชาการ อย่าใช้ความรู้สึก เพราะต้องใช้ความร่วมมือจากหลายด้าน การดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช่ธงที่อยากจะทำอะไรตามอำเภอใจ แต่เป็นสิ่งที่รัฐมุ่งมั่น ทำให้สำเร็จตามที่ได้แถลงต่อรัฐสภา”นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท อย่าใช้คำว่า ”ถ้า“ บ่อย เพราะเหมือนใช้จินตนาการ การวางกรอบโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีกระบวนการคิดไว้หมดแล้ว การที่รัฐบาลปฏิบัติตามนโยบายนี้ที่แถลงต่อรัฐสภาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และชอบธรรมที่สุด การรับฟังเพื่อทำให้ทุกฝ่ายสบายใจ ให้รอบด้านมากขึ้น อย่าใช้บางประเด็นมาขวางทุกเรื่องและทำอะไรไม่ได้เลย

“อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันดูภาพรวมว่าประเทศจะหลุดพ้นจากวิกฤตนี้อย่างไร ส่วนจะวิกฤติหรือไม่นั้น ขอให้เอาความจริงเป็นที่ตั้ง อย่าเอาชนะกัน และอย่าพูดตามวาระอารมณ์ ยังคงยืนยันการแจกเงินตามไทม์ไลน์เดิม เพราะยังไม่มีอะไรมาหักล้าง และยังคิดถึงปัญหาที่อาจจะเจอล่วงหน้าแล้ว” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติม ยังไม่มีการหารือ พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพราะต้องรอให้ความเห็นจากทุกฝ่ายครบถ้วนก่อน และยังมีแผนจะปรับกรอบงบประมาณ ปี 2568 หากไม่สามารถออก พ.ร.บ. เงินกู้ได้

‘จุลพันธ์’ ยืนยันไม่ลดขนาด โครงการ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ คง 5 แสนล้านบาท

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์​ รมช.คลัง กล่าวว่า คำเสนอแนะของ ป.ป.ช. เกี่ยวกับ พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยังมาไม่ถึงมือรัฐบาลอยู่ระหว่างเดินทาง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ช่วงเช้า มีการตัดสินใจเลื่อนประชุมไปก่อน เพราะต้องรับฟังรอบด้าน หากเร่งประชุมจะถูกกล่าวหาว่ารวบรัด

ส่วนจะมาเมื่อใดคงใช้เวลาไม่นาน และต้องเอาเอกสารมาดูให้ละเอียด ก่อนจะนำเข้าสู่คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาพร้อมกัน ทั้งคำตอบคณะกรรมการกฤษฏีกา และข้อเสนอแนะป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามข้อเสนอให้ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อจะได้เดินหน้าโครงการต่อ ยังตอบไม่ได้ว่า จะมีการนัดประชุมก่อนการประชุมครม.สัญจรหรือไม่ รอหนังสือให้มาถึง แล้วขอดูรายละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ เมื่อรับความเห็น ป.ป.ช. รัฐบาลยังมั่นใจจะทำโครงการได้ในเดือนพฤษภาคมหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ณ นาทีนี้ยังตั้งเป้าเหมือนเดิม แม้เวลาเริ่มกระชั้นก็ต้องยอมรับ ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เมื่อมีความเห็นเข้ามา ทั้งคณะกรรมการกฤษฏีกาและ ป.ป.ช. ในฐานะคณะกรรมการต้องรับฟังความเห็นรอบด้าน เพื่อให้สามารถปฏิบัติตาม และคลายข้อห่วงได้ แล้วถึงตัดสินใจต่อ

นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดลดขนาดโครงการลง ไม่มีการพูดคุยกันเลย ตนได้เห็นสื่อนำเสนอข่าวเช่นกันว่า จะลดขนาดจาก 5 แสนเหลือ 3 แสนล้านและใช้งบปกติ ซึ่งยืนยันว่า ทุกครั้งที่มีการประชุมตนอยู่ทุกชุดของคณะกรรมการ ไม่มีประเด็นนี้ และยืนยันว่า ไม่มีแผน 2 ขอดูตรงนี้ให้จบเรียบร้อยก่อน

ทั้งนี้ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) จะเป็นตัวเลือก หากออก พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ไม่ได้หรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งเรื่องการออก พ.ร.ก. รัฐบาลยังไม่คิดเรื่องนี้ และยังไม่ได้พิจารณา เพราะการออก พ.ร.ก. เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี เป็นอำนาจที่ใช้ตลอดเวลา และขณะนี้ยังไม่ได้หยิบยกมาพูดคุยกัน

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ครม. มีการพิจารณางบประมาณปี 2568 ใน 2 วาระ คือ พิจารณากรอบวงเงิน 3.6 ล้านล้านบาท โดยจัดเก็บรายได้กว่า 2.7 ล้านล้านบาท และกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 7.1 แสนล้านบาท ซึ่ง ครม. อนุมัติเรียบร้อย และมีการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณ ปี 2568 ซึ่งกรอบเวลาจะมีความเหลื่อมกันเล็กน้อย เมื่อพิจารณางบปี 2667 แล้วเสร็จ จะพิจารณางบประมาณปี 2568 ทันที และเร่งดำเนินการให้เสร็จ เพื่อให้ทันกรอบการใช้เงินปี 2568 ในเดือนตุลาคม ไม่น่ามีปัญหาอะไร

ส่วนที่นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายในงานสัมมนางบประมาณปี 2568 ว่า จะให้ตั้งงบสำรองไว้ใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ตนั้น นายจุลพันธ์ ปฏิเสธว่า ยังไม่มีการพูดถึงในการประชุมครม. ครั้งนี้

เลขาฯ ‘กฤษฎีกา’ แนะรัฐบาลลควรฟังความเห็น ป.ป.ช. โครงการดิจิทัลวอลเล็ต

นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยตอบรัฐบาลให้รับฟังความคิดเห็นจากหลายหน่วยงาน เกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการดิจิทัลวอเล็ตรวมถึงผลการศึกษาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วยหรือไม่ว่า ตนยังไม่เห็น แต่ใครเสนออะไรมาก็ควรจะฟังเพื่อประกอบการพิจารณา เพื่อจะได้เกิดความรอบคอบ

ส่วนความเห็นของ ป.ป.ช. จะมีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหนนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นอะไรเลย แต่ก็ควรจะรับฟัง ในแง่ที่ ป.ป.ช. เป็นองค์กรอิสระ เมื่อมีข้อสังเกตก็ควรเอามาประกอบการพิจารณา

ทั้งนี้ การรับฟังความเห็นจะต้องรับฟังจากหน่วยงานใดเป็นหลักหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจก็มีหน่วยงาน เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย

นายปกรณ์ กล่าวว่า ในส่วนหน่วยงานอื่นก็เป็นการรับฟังความเห็น ก็นำมาประกอบการตัดสินใจได้ ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลมาก็เอามาประกอบการตัดสินใจได้ละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

ส่วนกระแสข่าวไม่ต่ออายุนายปกรณ์ เป็นเลขาฯ คณะกรรมการกฤษฎีกาอีกนั้น นายปกรณ์ ยิ้มให้ พร้อมกล่าวว่า ไม่มี ไม่รู้ ไม่มีอะไรกังวล

ภาพจาก สำนักโฆษกฯ ทำเนียบรัฐบาล

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า