โครงสร้างธุรกิจสื่อและบันเทิงของดิสนีย์กำลังจะหันมาเน้นการส่งตรงถึงผู้บริโภค หลังหลายภาคส่วนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
วันที่ 13 ต.ค. 2563 เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานการแถลงข่าวของดิสนีย์ (Disney) ที่ได้แจ้งถึงแผนในการจัดการธุรกิจสื่อและบันเทิง โดยการรวมอำนาจบริหารมาที่บริษัทเดียว ซึ่งจะจัดการทั้งในด้านเผยแพร่คอนเทนต์ การขายโฆษณา และ Disney+
ธุรกิจหลายอย่างของดิสนีย์ได้รับผลกระทบจากภาวะการระบาดของโควิด-19 ทำให้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งกลายมาเป็นแหล่งรายได้สำคัญของบริษัท ปัจจุบันพวกเขามียอด subscribers แบบจ่ายเงินอยู่ที่ 100 ล้านบัญชี และกว่าครึ่งมาจาก Disney+ ส่วนที่เหลือมาจาก Hulu และ ESPN+
เท่ากับว่าธุรกิจสตรีมมิ่งของดิสนีย์กำลังจะเปลี่ยนจากแหล่งรายได้ทางเลือก มาเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท ด้วยการใช้ข้อได้เปรียบจากช่องทางเหล่านี้ที่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้โดยตรง เนื่องจากธุรกิจโรงภาพยนตร์กำลังอยู่ในช่วงที่ไม่แน่นอน และยังไม่มีใครรู้ว่าคนทั่วโลกจะกลับเข้าโรงหนังเมื่อใด
ภาพยนตร์หลายเรื่องโดนเลื่อนฉายไปตามๆ กัน ทำให้ดิสนีย์ตัดสินใจที่จะนำแอนิเมชันเรื่อง Soul ออกฉายทาง Disney+ แทนสำหรับประเทศที่เปิดให้บริการในเดือนธันวาคมนี้ ส่วนประเทศที่ Disney+ ยังไม่เข้าไปทำตลาดก็จะฉายในโรงภาพยนตร์ตามเดิม
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงรอข้อมูลว่าภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง มู่หลาน (Mulan) มียอดการซื้อบน Disney+ เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากที่ทาง Disney ตัดสินใจเปิดขายบนแพลตฟอร์มพร้อมกับวันที่เข้าฉายในโรง คาดว่าจะได้ทราบตัวเลขดังกล่าวในการแถลงผลประกอบการเดือนพ.ย.นี้
หลังการประกาศนี้ทำให้ราคาหุ้นของดิสนีย์ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 5% ทันทีในการซื้อขายหลังปิดตลาด