หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ (Washington Post) รายงานว่า ดิสนีย์ออกมาประกาศเลื่อนการเข้าฉายของภาพยนตร์เรื่อง “มู่หลาน” (Mulan) ไปเป็นวันที่ 21 สิงหาคม โดยหวังให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายและผู้คนจะกล้าไปที่โรงภาพยนตร์มากขึ้น
เดิมทีภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากแอนิเมชั่นเรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 27 มีนาคม แต่จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ภาพยนตร์ทั่วโลกต้องเลื่อนกำหนดการกันทั้งหมด
แม้จะเลื่อนมาเป็นวันที่ 24 กรกฎาคม แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทางดิสนีย์ยังคงไม่มั่นใจว่าผู้ชมจะพร้อมเดินทางไปชมภาพยนตร์ในระยะเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือนข้างหน้านี้ จึงได้ตัดสินใจประกาศเลื่อนไปอีกประมาณ 1 เดือน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยมีข่าวว่าอาจเลื่อนยาวไปถึงช่วงคริสต์มาสก็ตาม
การฉายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ช่วงเดือนสิงหาคมในสหรัฐฯ ถือเป็นความท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องที่ถูกวางให้เป็นภาพยนตร์ที่ดูได้ทั้งครอบครัว เนื่องจากส่วนใหญ่มีการเปิดภาคเรียนในช่วงดังกล่าวพอดี
มู่หลาน ในเวอร์ชันนี้รับบทนำโดย หลิวอี้เฟย นักแสดงหญิงชาวจีนวัย 32 ปี และจะกลายเป็นภาพยนตร์จากดิสนีย์เรื่องแรกที่เข้าฉายหลังการแพร่ระบาดของเชื้อ โดยมี “แบล็ค วิโดว” (Black Widow) เลื่อนจากพฤษภาคมเป็นพฤศจิกายน “ดิ อีเทอร์นอลส์” (The Eternals) เลื่อนจากพฤศจิกายน 2563 เป็นกุมภาพันธ์ 2564 และ “ผจญภัยล่องป่ามหัศจรรย์” (Jungle Cruise) เลื่อนจากกรกฎาคม 2563 เป็นกรกฎาคม 2564
ทางดิสนีย์คาดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ค่อนข้างสูงเพราะเป็นภาพยนตร์ที่ทำมาเพื่อตีตลาดทั้งในอเมริกาและจีน โดยต้องการให้ประสบความสำเร็จเพื่อช่วยชดเชยการขาดหายไปของรายได้หลังต้องปิดสวนสนุกทั่วโลก รวมถึงช่องกีฬา ESPN ที่ไม่มีการแข่งขันมาลงจอเนื่องจากถูกเลื่อนเช่นกัน
สำหรับแอนิเมชัน มู่หลาน เวอร์ชันต้นฉบับที่เข้าฉายในปี 1998 ทำรายได้ทั่วโลกไป 304,320,254 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และใช้ทุนสร้างทั้งสิ้น 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ