SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ณัฐชา’ แฉ ‘จุติ’ ตั้งคนสนิทอักษรย่อ จรร. มีประวัติปั่นหุ้น นั่งบอร์ดการเคหะฯ ปะทะคารมเดือดหลัง ถูกแขวะใช้เอกสารเท็จอภิปรายครั้งก่อน ท้าฟ้องร้องได้เลย

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตอนหนึ่งว่า เปิดโปงมหกรรมสร้างเพื่อโกง มหากาพย์ผลาญภาษีประชาชน พังทลายชีวิตและความมั่นคงของผู้มีรายได้น้อย ไปถึงอนาคต โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย ภายใต้การดำเนินการของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งการเคหะฯ มีโครงการก่อสร้างไปแล้วเกือบล้านยูนิต งบลงทุน หลายแสนล้านบาท นายจุติเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 62 ก็เริ่มแต่งตั้งคนของตัวเองมานั่งเป็นบอร์ดการเคหะฯ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 62

“เมื่อไล่ดูท่านตั้งคนสนิทคนหนึ่งที่ไม่ชอบมาพากลอักษรย่อ นาย จรร. และนาย จรร. คนนี้ มีประวัติโชกโชนด้านการเงิน เป็นนักปั่นหุ้น นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์มาแล้วหลายบริษัท และเป็นคนสนิท คนใกล้ชิด แบบชนิดที่ว่าอยากได้เท่าไหร่บอกมา พี่จัดให้ และคนนี้สนิทกันตั้งแต่นายจุติ เป็นรมว.ไอซีที เมื่อปี 53 โดยนาย จรร. เป็นที่ปรึกษา และรมว.ไอซีทีขณะนั้น โครงการฉาวโฉ่คือโครงการการไปพัวพันการทุจิต 3 จี ซึ่งท่านโยนเรื่องให้ลูกน้องไปหมดแล้ว แต่มาวันนี้เรื่องมันใกล้เคียงกัน ที่ตั้งคนสนิทเป็นบอร์ทการเคหะฯ และบอร์ทกำลังกระทำการอย่างหนึ่งออย่างใดให้สูญเสียผลประโยชน์ของชาติมากมาย” นายณัฐชา กล่าว

ด้าน นายจุติ ชี้แจงว่า ตนได้จดประเด็นที่ได้กล่าวหาหลายประเด็น จริงบ้างผิดจากข้อเท็จจริงบ้าง แต่ยืนยันว่า ความรู้สึกที่ได้เป็นผู้บริหารกระทรวงนี้ อยากให้การเคหะฯ มีการเปลี่ยนแปลง พร้อมสนับสนุนการที่จะมีการยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการบริหารงานที่คิดว่า ผิดปกติ ซึ่งสิ่งที่ผู้อภิปรายพูดย้อนตั้งแต่ปี 2537 และ 2543 ตนกำลังให้ผู้บริหารการเคหะฯ ไปค้นเอกสารภายในคืนนี้ เพื่อชี้แจงให้สภาเข้าใจ อย่างไรก็ตาม 90% ที่อภิปรายนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนตนเป็นรัฐมนตรี แต่ตนไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ เมื่อเข้ามาแล้วต้องแก้ไขปัญหาที่หมักหมม

นายจุติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เดือนแรกที่ตนเข้ามากำกับการเคหะฯ ได้รับรายงานจากคณะกรรมการการเคหะฯว่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบบัญชีการเคหะฯ และพบความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทลูก cemco ของการเคหะฯ และการจัดการทรัพย์สินที่มีปัญหา โดยสตง. ได้ส่งผลวิเคราะห์ พร้อมเสนอแนะให้ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของหารเคหะฯ ทั้งนี้ตนยินยอมให้สภานี้ตรวจสอบเต็มที่และไม่ยอมให้ใครบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงขอใช้เวลาเล็กน้อย เพื่อตรวจสอบเอกสารใน 17 ประเด็นที่ผู้อภิปรายใช้ข้อมูลบิดเบือนจากความขริงเป็นอย่างมาก และทำให้การเคหะฯเสียหาย รวมทั้งตนและรัฐบาลเสียหายด้วย

จากนั้น นายณัฐชา ได้ประท้วงให้นายจุติ ตอบทันที เพราะมีตนเองเพียงคนเดียวที่อภิปราย แต่นายจุติ กล่าวยังคงย้ำว่า ขอเวลารวบรวมเอกสารก่อน และยังย้อนด้วยว่า เมื่อปีที่แล้วเดือน ส.ค. ปี 2564 นายณัฐชา ใช้ข้อมูลเอกสารเท็จในการอภิปรายกระทรวงกลาโหม และได้มีการแจ้งความ

“ผมคิดว่าก็เอาความจริงมาสู้กัน กราบเรียนว่าผมก็ยังยืนยันว่า ข้อเท็จจริงที่เขาเล่าให้ท่านฟัง เป็นข้อเท็จเยอะมาก แล้วท่านพูดเองว่า ท่านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทุกครั้ง ท่านจำได้ไหมว่าเมื่อปีที่แล้ว 31 ส.ค. 64 ท่านอภิปรายใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จในสภาแล้วเขาก็ไปแจ้งความทั้งหมด 7 เรื่อง เอกสารที่ทำนำมาเสนอนั้นลงลายมือชื่อเท็จ ชื่อที่เสนอก็ไม่ถูกต้อง รายมือชื่อก็ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ยศ ตำแหน่งที่เสนอมาก็เขียนไม่ถูกต้อง เลขหนังสือก็ไม่ใช่ ดังนั้นเพื่อปกป้องข้อเท็จจริงและข้อที่รัฐบาลต้องนำเสนอนั้น ผมต้องไปแสวงหาความจริงในคืนนี้ครับ ผมไม่หนี ท่านก็อย่าหนี” นายจุติ กล่าว

ทำให้นายณัฐชา ลุกขึ้นตอบโต้อย่างมีอารมณ์ว่า ถ้าตนถูกดำเนินคดีคงไม่มายืนอภิปรายอยู่ในวันนี้ ที่อ้างว่า ใช้ข้อมูลเอกสารเท็จ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ตนยังไม่ได้รับหมายเรียกเลยแม้แต่ใบเดียว ถ้าตนผิดจริงและเท็จจริง กระทรวงกลาโหมคงไม่ปล่อยไว้แบบนี้ พร้อมท้าให้ฟ้องร้องได้เลย

จากนั้น ส.ส. ที่อภิปรายเป็นคนสุดท้ายคือ นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ที่ได้อภิปรายฯนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่คนไทยถูกหลอกไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อโทรศัพท์กลับมาหลอกคนไทย

ขณะที่ นายชัยวุฒิ ชี้แจงว่า ทั้งหมดที่พูดมาเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็อาชญากรรมที่เกิดขึ่นในโลกออนไลน์ ซึอยากให้เข้าใจทุกประเทศมีปัญหาเช่นนี้ ขณะที่ประเทศไทยที่มีปัญหาหนัก ส่วนหนึ่งเพราะมีระบบอินเตอร์เน็ตที่ดีมาก มีคนใช้อินเตอร์เน็ตแพร่หลายไม่ต่ำ 80% ของคนไทยทั้งประเทศ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากนโยบายนายกรัฐมนตรี เรื่องไทยแลนด์ 4.0 ในการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาประเทศ ถือเป็นผลงานของรัฐบาล แต่เมื่อมีคนดีก็มีคนร้ายเข้ามาเอาเปรียบหลอกลวงสร้างปัญหาให้กับสังคม แต่รัฐบาลได้ตั้งหน่วยงานมาแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยเฉพาะ พร้อมการแก้ไขคดีออนไลน์ทุกรูปแบบ ส่วนระบบสปายแวร์ที่มีการเข้าไปติดตามหรือดักฟังโทรศัพท์อะไรต่างๆ นั้น ยอมรับว่า มีจริงและเคยศึกษาถึงเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่า กระทรวงดีอีเอสไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้ เพราะไม่มีอำนาจ โดยเท่าที่ทราบจะเป็นงานด้านความมั่นคงหรือด้านยาเสพติด เช่น ในกรณีต้องจับคนร้ายก็ต้องมีการดักฟังว่ามีการส่งยาที่ไหน เป็นต้น ซึ่งใช้ในเรื่องที่เป็นคดีพิเศษและคดีสำคัญ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับหน่วยงานที่ตนกำกับดูแลและไม่มีอำนาจ

จากนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้านได้แจ้งต่อประธานในที่ประชุมว่า นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย เป็นคนสุดท้ายของพรรคฝ่ายค้าน ที่จะอภิปรายในวันนี้ โดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังมี ส.ส.ที่ประสงค์จะอภิปรายอีก 2 คน และขอสลับลำดับการอภิปรายของวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค. 65) เป็นคนแรก จะเริ่มที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ตามด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง แล้วจึงจะวกกลับมาที่ นายชัยวุฒิ อีกครั้งประมาณ 10.00-11.00 น. หลังจากนั้นจะต่อด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และน่าจะเข้าสู่การอภิปรายของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ทั้้งนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้ว่าในการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก ฝ่ายค้านใช้เวลาไปแล้ว 11 ชั่วโมง 15 นาที และแจ้งปิดการประชุมในเวลา 23.52 น. นัดประชุมต่อในวันที่ 20 ก.ค. เวลา 8.30 น.

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า