‘พิจารณ์’ อัด ‘ประยุทธ์’ เป็นอาชญากรไซเบอร์ ใช้ ‘เพกาซัส’ สอดแนมกลุ่มคนเห็นต่าง

‘พิจารณ์’ อัด ‘ประยุทธ์’ เป็นอาชญากรไซเบอร์ ใช้ ‘เพกาซัส’ สอดแนมกลุ่มคนเห็นต่าง เผยอย่างน้อย 5 ชื่อนักการเมืองขั้วตรงข้ามโดนด้วย เชื่อใช้งบอัดฉีด 700 ล้านบาท

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 3 นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุมีการสั่งซื้อสปายแวร์ระดับอาวุธสงคราม ร้ายแรง 3 ชนิด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557-2565 โดยหนึ่งในนั้น คือ สปายแวร์เพกาซัส (Pegasus) ซอฟต์แวร์สอดส่องแบบถูกกฎหมาย ที่สามารถฝังตัวเข้าไปในโทรศัพท์มือถือสอดแนมข้อมูล ดักฟังโทรศัพท์ได้แบบเรียลไทม์ โดย ‘เพกาซัส’ ได้กลายเป็นประเด็นขึ้นเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา จากการเปิดรายงานของไอลอว์ (iLaw) ที่ระบุว่า นักวิชาการ นักกิจกรรม และนักสิทธิมนุษยชนอย่างน้อย 30 คน ถูกแฮ็กโดยเพกาซัส

ส.ส.พิจารณา ได้กล่าวตอนหนึ่ง อ้างอิงรายงานจาก Citizen Lab ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมในแคนาดา ที่เชี่ยวชาญด้านการติดตามการจารกรรมทางไซเบอร์และการใช้สปายแวร์ ระบุว่า พบการใช้เพกาซัสในไทยครั้งแรกตั้งแต่เดือน พ.ค. ปี 2557 มีการทำงานใน time zone หรือเขตเวลาของไทย ชี้ไปที่ Website ชื่อว่า Siamha, thtube และ thainews และมีการใช้งานเพกาซัสอย่างต่อเนื่องจนถึงอย่างน้อยใน ปี 2564

นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานการสั่งซื้อสปายแวร์อื่นๆ อีก ได้แก่สปายแวร์ที่ชื่อ RCS  จากบริษัท Hacking Team ในอิตาลี คู่แข่งของเพกาซัส โดยชื่อหน่วยงานที่ซื้อคือกรมราชทัณฑ์ ซื้อในปี 2556 ในราคา 286,482 ยูโร หรือประมาณ 11.5 ล้านบาท บวกค่าธรรมเนียมการจัดการรายปีอีก 52,000 ยูโร หรือประมาณ 2 ล้านบาท และกองทัพบก ซื้อในปี 2557 ในราคา 360,000 ยูโร หรือประมาณ 14.4  ล้านบาท

ส.ส. พิจารณ์ เปิดเผยว่า ตรวจสอบพบหลักฐานการเบิกจ่ายงบประมาณของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อซื้อชุดอุปกรณ์ค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Circles จำนวน 9 รายการ ในระหว่างปี 2558-2563 และพบอีก 10 รายการที่เบิกจ่ายงบประมาณซื้อชุดอุปกรณ์ค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์มือถือเช่นเดียวกัน แต่ไม่ระบุยี่ห้อ โดยจากรายงานของ Citizen Labs ตรวจพบการใช้งานสปายแวร์ Circles โดยหน่วยงานราชการไทย 3 หน่วยงาน คือหน่วยข่าวกรองทหารบก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด

พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การใช้สปายแวร์ระดับโลก ที่สามารถแฮ็กเข้าโทรศัพท์มือถือของประชาชนได้เพียงแค่รู้เบอร์โทรศัพท์ หรือ apple ID และสามารถล้วงข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดของเหยื่อ รวมถึงเปลี่ยนโทรศัพท์เหยื่อเป็นกล้องและอุปกรณ์ดักฟังตลอด 24 ชั่วโมง หากใช้กับอาชญากรร้ายแรง ป้องกันการก่อการร้าย หรือตามจับพ่อค้ายาเสพติด ก็คงไม่เป็นปัญหา คุ้มค่ากับเงินหลักพันล้านที่ใช้ซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ แต่ปรากฏว่าผู้ที่ถูกแฮ็ก 30 รายชื่อที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมทั้งนักวิชาการ คือ สฤณี อาชวานันทกุล, รศ.ดร. พวงทอง ภวัครพันธุ์ และรศ.ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ

นอกจากนี้ ส.ส.พิจารณ์ ยังได้เปิดเผยอีก 5 รายชื่อ นักการเมือง ที่ถูกสอดแนมเพกาซัส ซึ่งมีผลตรวจสอบจาก Citizen Labs เช่นกันคือ 1. ส.ส. เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถูกติดตาม 3 ครั้ง โดยครั้งแรกที่ ส.ส.เบญจา 1 วันหลังจากอภิปรายในปีงบประมาณ 65, นายปกรณ์ อารีกุล ผู้ช่วย ส.ส. รังสิมันต์ โรม 2 ครั้ง, นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล 1 ครั้ง โดยมีการเปลี่ยนมือถือไปใช้ระบบแอนดรอยด์, พรรณิการ์ วานิช 2 ครั้ง และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า 8 ครั้ง ขณะที่ คนอื่นๆ ในพรรค ส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือใช้ระบบแอนดรอยด์ ส่วน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ทำโทรศัพท์มือถือหาย

ส.ส.พิจารณ์ กล่าวต่อว่า จากพฤติกรรมการสอดแนมนักการเมืองฝั่งตรงข้ามปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือการช่วงชิงทางการเมือง ตั้งใจที่จะทำลายขั้วตรงข้ามทางการเมือง ย้ำ NSO จะขายเพกาซัสให้กับรัฐบาลหรือหน่วยงานราชการเท่านั้น โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล ดังนั้นการที่คนไทยอย่างน้อย 35 คนถูกโจมตีด้วยอาวุธไซเบอร์นี้ ยืนยันได้เลยว่า ต้องเป็นฝีมือของรัฐบาล ต้องเป็นฝีมือของพล.อ.ประยุทธ์ แน่นอน และการค้นพบครั้งนี้เป็นเพียงยอดภูเขาเท่านั้น อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการหาหลักฐานจัดซื้อจัดจ้างเพกาซัสไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีงบลับ งับกันลับๆ เยอะเหลือเกิน เชื่อว่าจะใช้ 700 ล้านบาท แต่ถ้ารัฐบาลนี้ไม่เคยซื้ออะไรถูก คิดว่าขั้นต่ำน่าจะพันล้านบาท

“ภายใต้รัฐบาลนี้พี่น้องประชาชนทุกคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลล้วนสามารถตกเป็นเหยื่อจากการคุกคามทุกรูปแบบตราบที่เรายังมีนายกฯ ที่ชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังนั้นสิ่งที่เป็นภัยต่อเรา อาจจะไม่ใช่สปายแวร์ที่ชื่อเพกาซัสครับ แต่สิ่งที่เป็นภัยต่อเราที่สุดคือเผด็จการที่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา” ส.ส.พิจารณ์ กล่าวทิ้งท้าย