นพ.ประสิทธิ์ เห็นด้วย เปิดประเทศ 1 พ.ย. คาดตัวเลขคนติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นแต่คุมได้

นพ.ประสิทธิ์ เห็นด้วย เปิดประเทศ 1 พ.ย. คาดตัวเลขคนติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นหลังเปิดประเทศ แต่เชื่อว่าควบคุมได้ พร้อมแนะมาตรการ 3 แนวทาง

วันที่ 13 ต.ค. 2564 ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวถึงกรณีที่ไทยจะเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2564 ว่า หากคำถามเปิดประเทศถามเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ตนคงไม่เห็นด้วย แต่วันนี้ ด้วยข้อมูลอัตราการฉีดวัคซีนของคนในประเทศ ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้ว 50 %  ส่วนเข็มที่ 2 ก็เกิน 1 ใน 3 ไปแล้ว ส่วนคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและผู้สูงอายุตัวเลขการฉีดในแต่ละจังหวัดก็ดำเนินไปด้วยดี มีจังหวัดทางภาคใต้ที่ยังต้องเร่งฉีดวัคซีนให้มากขึ้น ซึ่งถ้าจำนวนคนที่ฉีดวัคซีนมีมากโอกาสที่จะลดความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงก็มีมากขึ้น

การจะเปิดประเทศได้ต้องทำ 3 มาตรการคู่กันไป คือ 1.กระทรวงสาธารณสุขจะต้องระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชน ซึ่งยืนยันว่าตอนนี้ว่าเรามีวัคซีนเพียงพอ เพราะในเดือน ต.ค. – พ.ย. จะมีวัคซีนเข้ามาเดือนละ 20 ล้านโดส 

2. มาตรการส่วนบุคคล ทุกคนต้องการ์ดไม่ตก ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สถานประกอบการต้องตรวจ ATK เพื่อสร้างความปลอดภัย

3. มาตรการของระบบการบริหารจัดการ การปกครอง จะต้องเข้มงวดในระดับหนึ่ง ตราบใดที่มีมาตรการแต่คนไม่ทำตามสุดท้ายจะเกิดการแพร่ระบาด แต่ถ้าทำตามมาตรการแล้วตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นก็ต้องมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นอีก ซึ่งปีที่แล้วมีมาตรการผ่อนปรนถึง 6 มาตรการ ดังนั้น ปีนี้ถ้าค่อยๆ ผ่อนปรนและติดตามสถานการณ์ อย่าเร็วจนเกินไปเพราะข้อดีของเราคือตอนนี้มีวัคซีนแล้ว ข้อเสียคือเราเจอสายพันธุ์เดลตา ซึ่ง ณ เวลานี้เชื่อว่าสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดในไทยเราคุมอยู่ในระดับหนึ่ง เห็นได้จากคนไข้อาการหนักที่ลดลง และเริ่มมีการปิดโรงพยาบาลสนามบางแห่งบ้างแล้ว

นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า คาดว่าเมื่อเปิดประเทศอาจจะมีคนติดเชื้อเยอะขึ้น แต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าตราบใดอัตราการเสียชีวิตก็ยังควบคุมได้อยู่ อย่าลืมว่าคนที่เคยติดเชื้อจะสร้างภูมิคุ้มกันเองได้ แต่ก็ขอความร่วมมือทุกๆ คนในเรื่องการช่วยกันป้องกันโควิด-19 เพราะไม่ใช่หน้าที่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน