‘หมอแม่สอด’ เผยความกังวลใจ หลังพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 17 คน ใน 40 คนไทยข้ามแดนมาจากเมียนมา

แฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘หมอแม่สอด’ เผยความกังวลใจ หลังพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 17 คน ใน 40 คนไทยข้ามแดนมาจากเมียนมา

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2564 แฟนเพจเฟซบุ๊ก หมอแม่สอด ได้โพสเรื่องราวหลังรับกลุ่มเสี่ยงติดโควิด 40 คนเข้าไทย ข้อความระบุว่า “สำหรับเรื่องที่ทุกท่านกำลังกังวลกันอยู่นั้น หมอเองก็กังวลมากเช่นกันค่ะ เราต้องยอมรับว่ามีลูกหลานของเราข้ามไปทำงานฝั่งเมียนมา และกำลังป่วยหลายราย หากปล่อยให้อาการแย่ลงจึงรับกลับมา คงไม่ทันการ  หรือปล่อยให้หนีตายเข้ามากันเอง โรคก็จะยิ่งระบาด ยิ่งควบคุมไม่ได้ จะยิ่งแย่กันไปใหญ่ ในตอนท้ายเราก็ต้องรับเค้ากลับมา

ขณะนี้จังหวัดรับเข้ามาทั้งหมด 40 คน ผลเป็นบวก 17 คน ผลไม่แน่นอน 3 คน ที่เหลือผลเป็นลบ หมอเองก็ทราบพร้อมๆ กับทุกคน ว่ามีกลุ่มนี้เข้ามา และตกใจมาก แต่อย่างไรชีวิตก็คงต้องเดินหน้าไป วันนี้ที่รพ.จึงวุ่นวายกับการเตรียมการทุกอย่าง ที่ฉุกละหุก และรุนแรงมากกว่าทุกครั้งอยากร้องไห้จริงๆ ค่ะ เรามาเป็นกำลังใจให้กันนะคะ”

จนกลายเป็นกระแสไปในโลกออกไลน์ ก่อนที่ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘หมอแม่สอด’ จะได้ออกมาโพสต์ชี้แจงอีกครั้งโดยข้อความระบุว่า “เนื่องจากมีข่าวออกมามากมาย หลายๆ คนอาจจะงงว่าตกลงตอนนี้เรามีผู้ป่วยทั้งหมดกี่คนกันแล้ว แต่ละคนรักษาอยู่ที่ไหนบ้าง (หมอก็งงไม่แพ้กันครับ) วันนี้หมอจะมาสรุปให้ฟังกันอีกทีนะครับ

สรุปยอดผู้ป่วย 8 มกราคม 2564

• ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล ทั้งหมด 23 คน [9 คนเดิม + 14 คนใหม่]
• พนง.จิตรมอเตอร์ 1 คน
• สามี พนง.จิตรมอเตอร์ 1 คน
• คนขับ taxi 1 คน
• ผู้ป่วยชาย มีประวัติไปพัทยา 1 คน
• คัดกรองเชิงรุกต่างชาติ 1 คน
• มามาโฮมมาร์ท 1 คน
• พนักงานสถานบันเทิง 2 คน
• ผู้ป่วยตั้งครรภ์ 1 คน
• ผู้ป่วยใหม่จาก Sky complex 14 คน
• ผู้ป่วยรักษาในสถานกักกันตัว (LQ) ทั้งหมด 6 คน [3 คนเดิม + 3 คน ใหม่]
• Star complex 3 คน
• ผู้ป่วยใหม่จาก Sky complex 3 คน
• รอยืนยันผลอีก 3 คน (อยู่ใน LQ)

ทั้งนี้ผู้ที่ตรวจพบเชื้อและสามารถอยู่ในสถานกักกันตัวได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่ไม่มีอาการ ตรวจพบเชื้อน้อยมากกกกหรือเชื้อนั้นตายแล้ว โอกาสแพร่เชื้อต่ำ แต่ยังมีความจำเป็นต้องกักตัวให้ครบตามวันที่กำหนดครับ

ถึงแม้ว่ายอดผู้ป่วยของอำเภอแม่สอดจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย โดยเฉพาะวันนี้ที่บวกวันเดียวอีก 14 คน แต่ผู้ป่วยใหม่ทุกรายนั้นได้เข้ามาตามระบบและไม่ได้สัมผัสกับบุคคลภายนอก

ส่วนในวงเดิมที่ทางทีมโรงพยาบาลไปค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ ตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชนทั้งหมดนั้น ผลเป็นลบหมดแล้ว และได้รับการติดตามดูแลอาการต่ออย่างใกล้ชิดและเหมาะสม

ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายจนกลับบ้านแล้วนั้น ทางโรงพยาบาลจะต้องตรวจจนมั่นใจแน่ๆ แล้วว่าผู้ป่วยรายนั้นไม่มีเชื้ออยู่แล้วจริงๆ และไม่สามารถแพร่เชื้อให้ใครต่อได้อีก จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้

ขอความร่วมมือทุกคน สวมแมส ล้างมือ เว้นระยะห่าง งดเดินทางออกต่างจังหวัด/ต่างประเทศหากไม่จำเป็น แจ้งประวัติตามความเป็นจริง แล้วเราจะผ่านไปด้วยกันครับ”

ขณะที่ นายพงศ์รัตน์  ภิรมย์รัตน์   ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า  ตามระเบียบ ที่ ศบค. ได้กำหนดให้ คนไทยในต่างประเทศ ให้ แจ้งความประสงค์ กลับประเทศ ณ สถานทูตไทย ประจำประเทศนั้นๆ  แต่จากสภาพปัญหาที่พบในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน  มักจะพบ ปัญหาการลักลอบข้ามแดน เพราะคนเหล่านั้นเกรงกลัวต่อการถูกดำนินคดี ทั้งในฝั่งไทยและเมียนมาร์ ซึ่งการลักลอบ ข้ามแดน เข้ามาในประเทศ ทำให้ สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เหมือนเช่น ที่ เคยเกิดขึ้น ในหลายจังหวัดชายแดน ซึ่งก็รวมถึง จังหวัดตาก ด้วย

ดังนั้น จึงมีการสืบสวนหาข่าวว่า ขณะนี้ ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มีผู้ติดเชื้อจำนวนขึ้นทำให้ มีคนไทย ที่ทำงานใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมาร์ ต้องการกลับประเทศ โดยนัดแนะ รวมตัว เพื่อ จะข้ามแม่น้ำเมยกลับมายังฝั่งไทย  ในกระบวนการนี้ ทุกคน ที่ ลักลอบข้ามกลับมา  จะถูก ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดตาก ได้ มีการประชุม หารือ  ร่วมกัน ทั้ง ทหาร ตำรวจ อัยการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ในการวางแผนรองรับสถานการณ์ ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว  ซึ่งทุกคนที่ลักลอบเข้าประเทศ จะต้องเข้ากระบวนการกักตัว  ตรวจโรค โควิด 19 ใน Local  quarantine

ทั้งนี้ ก็ต้อง ให้มนุษยธรรมแก่ ชาวไทย ทุกคนที่ อยู่นอกราชอาณาจักรไทย ทุกคนมีเหตุผล ที่จะไปทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว เป็นเสมือนลูกหลาน  ให้เขากลับบ้าน โดยเระบบของรัฐ มีการกักตัวตรวจโรค  ดีกว่า ปล่อยให้ เขาแอบข้ามมา โยที่เราไม่มีการสืบสวนหาข่าว แล้วหลุดรอด ออกไป ยิ่งจะทำให้เกิดการแพร่เชื้อให้แก่คนอื่น