SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 29 พ.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหาร ที่มีเป้าหมายเพื่อยกเลิกการคุ้มครองทางกฎหมายบางประการของสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเดิมทีไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาที่ผู้ใช้โพสต์

หากคำสั่งนี้มีการบังคับใช้เป็นกฎหมาย สื่อสังคมออนไลน์อย่างเช่นทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก จะเปิดกว้างสำหรับการถูกดำเนินการทางกฎหมายมากกว่าเดิม และอยู่ภายใต้กฎข้อบังคับของรัฐบาลยิ่งขึ้น

ทรัมป์ บอกว่า คำสั่งของฝ่ายบริหารเพื่อจัดการสื่อสังคมออนไลน์นี้มีความจำเป็นเพราะบริษัทต่างๆ ไม่ได้เป็นแพลตฟอร์มการสนทนาที่เป็นกลางอีกต่อไปแล้ว แต่เข้าไปพัวพันกับความเคลื่อนไหวทางการเมือง

คำสั่งที่เปิดทางไปสู่การยุติการปกป้องทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ก และกูเกิล ไม่ต้องรับผิดต่อเนื้อหาที่ผู้ใช้นำมาเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม มีขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคาร ทวิตเตอร์ได้ขึ้นแถบคำเตือน fact-check ใต้ข้อความ 2 ข้อความของทรัมป์ ซึ่งมีการอ้างว่าระบบลงคะแนนทางไปรษณีย์ จะนำไปสู่การทุจริตฉ้อโกงผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน

เนื่องจากยังไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีความพยายามโกงเลือกตั้งเกิดขึ้น ทวิตเตอร์จึงได้แปะลิงก์ให้ผู้อ่าน “ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลงคะแนนทางไปรษณีย์” ไว้ใต้ทวีตของทรัมป์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทวิตเตอร์ทำเช่นนี้ หลังจากที่โดนวิพากษ์วิจารณ์มานานหลายปีว่าเพิกเฉยกับพฤติกรรมละเมิดกฎเกณฑ์ของทรัมป์ ที่มักจะทวีตโจมตีบุคคลอื่น หรือไม่ก็แพร่ข้อมูลบิดเบือนไปสู่ผู้ติดตามบัญชีของเขาซึ่งมีมากกว่า 80 ล้านคน

การตักเตือนของทวิตเตอร์ครั้งนี้ทำให้ทรัมป์ ไม่พอใจอย่างมาก และได้ออกมาโจมตีสื่อโซเชียลแห่งนี้ว่ากำลังปิดกั้นการแสดงความเห็นของฝ่ายอนุรักษนิยมในสหรัฐฯ

ทรัมป์กล่าวว่า แพลตฟอร์มต่างๆ เหล่านี้มีอำนาจที่ไม่มีการตรวจสอบในการคัดกรองและจำกัดการสื่อสารส่วนบุคคลเกือบทุกรูปแบบ “เราไม่อาจปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”

ความไม่พอใจของทรัมป์ดูเหมือนพุ่งเป้าโดยเฉพาะไปที่ระบบ fact-check หลังจากกล่าวหาทวิตเตอร์ว่าพยายามแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 “ทวิตเตอร์กำลังปิดกั้นการแสดงคิดความเห็นอย่างเสรี และผมในฐานะประธานาธิบดีจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น”

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า คำสั่งพิเศษของเขามีเป้าหมายส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนอเมริกา แต่ก่อนหน้ามีผลบังคับใช้ มันคงต้องเจอเสียงต่อต้านทางการเมืองและเขายอมรับว่ามันอาจต้องเผชิญการยื่นคัดค้านในศาล

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า