รมว.ยุติธรรม ประกาศแนวทางสู้ยาเสพติดชี้ต้นทุนถูก เครื่องมือทันสมัย จับอย่างเดียวไล่ไม่ทัน ต้องตัดตอนไล่ยึดทรัพย์เครือข่ายเ ผยปีนี้ตั้งเป้ายึด 1,500 ล้านได้แน่ คุยอนาคตจะยึดปีละ 7 พันล้าน

วันที่ 22 ก.ค. 2563 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด มีนายนิพันธ์ ศิรินธร เป็นประธาน โดยได้เชิญนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เพื่อรับมอบเอกสารข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหายาเสพติด
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยาเสพติดในปัจจุบันผลิตได้ไวมาก มีต้นทุนถูกลง ทำให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นงานที่หนัก ที่ผ่านมาตนได้ลดรางวัลนำจับยาเสพติด ที่แต่เดิมยาบ้าจะได้เม็ดละ 2 บาทเป็น 50 สตางค์ ไอซ์กรัมละ 200 บาทเป็น 50 บาท เพราะปัจจุบันต้นทุนของยาบ้า 1 เม็ดราคาเพียง 55 สตางค์เท่านั้น เราจึงปรับมาเป็นการเพิ่มรางวัลนำจับที่สามารถสาวไปถึงการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด
ที่ผ่านมา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ช่วยให้ข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆ ถือเป็นการทำงานแนวใหม่ ใช้ประโยชน์จากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินมากขึ้นในการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งตนคิดว่าเรามาในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผู้ต้องขังในเรือนจำกว่า 80% เป็นคดียาเสพติด ดังนั้นเงินที่ใช้ในการปราบปรามมีเท่าไรก็ไม่พอ ปราบปรามได้ไม่หมด เพราะสาเหตุที่ตนได้บอกแล้วว่า เทคโนโลยีเครื่องผลิตในปัจจุบันผลิตได้วันละประมาณ 6-7 ล้านเม็ด และใช้สารเคมีที่มีราคาถูกกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้ผลิตได้ง่ายมากๆ ดังนั้นเราจึงต้องตั้งเป้าไปที่การยึดทรัพย์
ในส่วนของการปราบปรามยาเสพติดเราจะไม่ลดละ แต่เราจะทำควบคู่ไปกับการตรวจสอบด้านธุรกรรมการเงินของผู้ค้า ซึ่งต้องเร่งดำเนินการ แต่ในขณะนี้เครื่องมือเรายังมีน้อยมาก ต้องอาศัยความขยันจากทางเจ้าหน้าที่ จากนี้เราคงจะต้องเร่งหาเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
“เราตั้งเป้ายึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติภายในปีนี้ให้ได้ 1,500 ล้านบาทซึ่งขณะนี้เราทำได้ถึง 1 พันล้านบาทเศษแล้ว เชื่อว่าเวลาที่เราเหลืออยู่จะได้ตามเป้าที่เราวางไว้ มั่นใจว่าเรามาถูกทางแล้ว และการที่เราตั้งเป้าจะให้ได้มากกว่าเดิม 10 เท่าคือประมาณ 6-7 พันล้านบาทเชื่อว่าเราทำได้อย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่ใช่การขายฝัน ที่ผ่านมาการจับยาเสพติดส่วนใหญ่เราจบที่คนขายและยึดของกลางแต่ไม่เคยสาวไปถึงตัวการใหญ่ แต่จากนี้ต่อไป เราจะทลายเครือข่ายทั้งหมด เชื่อว่าอีกไม่นานปัญหายาเสพติดจะเบาบางลงและจะค่อยๆ หมดไป” นายสมศักดิ์ กล่าว