ดีเอสไอ ชี้แจงกรณี วันเฉลิม สูญหาย เห็นควรส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย
พ.ต.อ. อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยกรณีที่มีข่าวปรากฏทางหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ที่ระบุว่า ความหวังคดี ‘วันเฉลิม’ ริบหรี่ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.โดยมีข้อความตอนหนึ่งว่า เวทีเสวนาหนึ่งเดือนกับการแสวงหาความจริง : #saveวันเฉลิม
น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวนายวันเฉลิม กล่าวว่า ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ทราบข่าวว่า วันเฉลิมเป็นอย่างไร มีการยื่นเอกสารทั้งทางไทยและกัมพูชา ขณะนี้อัยการสูงสุดให้ความเห็นว่าต้องรอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเป็นคดีพิเศษก่อน ซึ่งยื่นเรื่องไปดีเอสไอวันที่ 25 มิ.ย. โดยใช้เวลา 15 วันพิจารณาว่าจะรับคดีหรือไม่ ถ้าดีเอสไอไม่รับเป็นคดีพิเศษเราก็ไปต่อยาก หนทางที่จะตามหาวันเฉลิมก็ริบหรี่ลงไป ส่วนในกัมพูชามีการแต่งตั้งทนายไปแจ้งความกับทางการกัมพูชาแล้ว เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องทางการกัมพูชาก็ปฏิเสธ หน่วยงานรัฐไทยก็บอกว่าทำตามกระบวนการ ผ่านไปหนึ่งเดือนไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย จึงต้องออกมาเรียกร้องสิทธิ
พ.ต.อ. อัครพล กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวโดยภายหลังจากที่ได้รับเรื่องแล้วได้มอบหมายให้กองบริหารคดีพิเศษในฐานะหน่วยงานพิจารณาคำร้องของประชาชนในเรื่องทางอาญาที่ร้องขอต่อกรม รีบดำเนินการ และปรากฏข้อเท็จจริงว่า เป็นกรณีร้องขอให้สืบสวนสอบสวน โดยเชื่อว่า บุคคลสัญชาติไทย คือ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ สูญหายในต่างประเทศ เนื่องจากการกระทำผิดอาญาอันอาจเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา และเป็นกรณีความผิดที่มีโทษตามกฎหมายไทย ได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 วรรคหนึ่ง กำหนดให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ฅ
โดยในวันนี้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งให้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ร้องทราบต่อไป