EA แค่เซ แต่ไม่ล้ม ธุรกิจมั่นคง มีแผนสำรองเสมอ ขอนักลงทุนอย่าโยงเคส STARK

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA หลังจากสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาราคาหุ้นร่วงติดฟลอร์ -30% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี สาเหตุจาก Force Sell แต่ประเด็นนี้ก็ได้ถูกแก้ไขจบไปแล้วเรียบร้อย

ต่อมาในวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษ ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ และ ‘อมร ทรัพย์ทวีกุล’ กรรมการและผู้บริหาร EA และบริษัทย่อย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น 99.99% (ได้แก่ บริษัท อีเอ โซล่า นครสวรรค์ จำกัด และบริษัท อีเอ โซล่า ลำปาง จำกัด) รวมทั้ง ‘พรเลิศ เตชะรัตโนภาส’ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกระทำการทุจริต

โดยในกรณีช่วงปี 2556 –2558 พบหลักฐานว่าทั้ง 3 รายร่วมกันทุจริตการจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศและอุปกรณ์โปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ EA ผ่านบริษัทย่อย 2 บริษัทดังกล่าว เป็นจำนวนรวม 3,465.64 ล้านบาท

ซึ่งจากประเด็นดังกล่าว ส่งผลทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลด EA ออกจาก SET ESG Ratings ที่เคยได้เรตติ้งระดับ AA เนื่องจากบริษัทฯ ขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์ โดยมีผลตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 2567

และเป็นเหตุให้ ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ พร้อมด้วย ‘อมร ทรัพย์ทวีกุล’ ประกาศลาออกจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ เพื่อความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้เกิดการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่

ล่าสุด EA ได้มีมติแต่งตั้งให้ ‘สมใจนึก เองตระกูล’ ประธานกรรมการบริษัทฯ ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมแต่งตั้งกรรมการบริษัทเพิ่มเติม ประกอบด้วย ‘ชัชวาลย์ เจียรวนนท์’, ‘วสุ กลมเกลี้ยง’ และ ‘ฉัตรพล ศรีประทุม’ มีผลตั้งแต่ 14 กรกฎาคม 2567

[ ไม่เหมือนเคส STARK ]

โดย ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA ได้ร่วมนั่งโต๊ะแถลงการณ์ โดยพูดว่า EA เป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูง ยังมีกำไรและมีผลประกอบการที่ดี การลงทุนของบริษัทก็สามารถตรวจสอบได้ จึงไม่เหมือนกับกรณี STARK อย่างที่หลายคนพูดถึงกันแน่นอน

ที่สำคัญอยากให้มองบริษัทด้วยความมั่นใจในทีมงานว่าจะยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความมุ่งมั่น อย่าให้เรื่องส่วนตัวของผมมาทำร้ายบริษัท และในส่วนของคดีความก็ขอให้ไปดำเนินการพิสูจน์ตามกระบวนการต่อไป

[ กระทบความเชื่อมั่นแต่ไม่กระทบองค์กร ]

โดย ‘สมใจนึก เองตระกูล’ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้พูดว่า ถึงแม้ว่า สมโภชน์และอมรจะต้องลาออกไป แต่มั่นใจว่าจะไม่เป็นปัญหาต่อการดำเนินธุรกิจ แผนการขยายธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไปได้

เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ ทำงานด้วยระบบและทีมงานที่ตั้งขึ้นมาเป็นผู้ที่ทำงานร่วมกับสมโภชน์และอมรในโครงการต่างๆ มายาวนานและเป็นมืออาชีพ จึงเชื่อมั่นว่า EA อยู่ในธุรกิจที่ดีที่มีอนาคต มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีได้

ส่วนการปรับโครงสร้างกรรมการบริษัท และผู้บริหารระดับสูง มั่นใจว่าจะส่งผลให้บริษัทฯ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการยื่นขอออกตราสารหนี้หรือตราสารทุนต่อสำนักงาน ก.ล.ต.ได้ ทั้งนี้ คณะผู้บริหารและทีมงานที่บริหารจัดการยังคงเป็นชุดเดิมอยู่

[ มั่นใจมีเงินชำระหนี้เพียงพอ ] 

สำหรับภาระหนี้สินของบริษัทฯ ที่จะครบกำหนดชำระในไตรมาสที่ 3 และ 4 ในปี 2567 ประกอบด้วย

1.ภาระหนี้จากสถาบันการเงินประมาณ 3,200 ล้านบาท

2.หุ้นกู้จำนวน 5,500 ล้านบาท

โดยภาระหนี้ทั้ง 2 ส่วนยังสามารถชำระได้ด้วยกระแสเงินสดจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมประมาณ 5,000 ล้านบาท (หัก Adder ของโครงการที่ครบกำหนดแล้ว)

นอกจากนี้ ยังได้เตรียมวงเงินสำรองจากสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ที่จะเสนอขายเพิ่มเติม โดยหุ้นกู้อยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นเอกสารต่อ ก.ล.ต เพื่อเสนอขายต่อไป

[ ก็เเค่เซ แต่ไม่ล้ม ]

‘สมใจนึก เองตระกูล’ ได้พูดย้ำอีกว่า แม้บริษัทจะถูกกระทบด้วยข่าวร้าย แต่ภายในองค์กรไม่ดีมีเรื่องไม่ดี ดังนั้นเรายังคงเดินหน้าทำธุรกิจต่อไป ยังคงมีดีลกับต่างประเทศและเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจเลย

มองว่าสถานการณ์ไม่น่าจะเลวร้ายไปมากกว่านี้ แต่เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นที่ต้องสร้างกลับขึ้นมาใหม่ และเข้าใจได้หากมูลค่าหุ้นจะลดลงไปบ้างในระยะนี้ แต่เราเป็นบริษัทที่มั่นคงก็เชื่อว่าจะกลับมาเป็นปกติได้

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนสำรองเพื่อรับมือสถาการณ์ต่างๆ เสมอและจะทำทุกอย่างให้เต็มที่ เพราะฉะนั้นตอนนี้ EA ที่เจอข่าวร้ายๆ อาจแค่เซแต่จะไม่ล้มอย่างแน่นอน