ประเด็น Zero Waste หรือการไม่มีขยะเหลือทิ้งเป็นภาระให้กับโลก ยังคงเป็นเรื่องสำคัญไม่เว้นแม้แต่การดื่มกาแฟหนึ่งแก้ว
เมื่อลองนับปริมาณเครื่องดื่มที่เราบริโภคในแต่ละวัน ตั้งแต่กาแฟยามเช้า ไปจนถึงเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความรีเฟรชในยามบ่าย หากสังเกตดูดีๆ แล้ว อาจพบว่าเรากำลังสร้าง ‘ขยะ’ จำนวนมากโดยไม่รู้ตัว
เพราะในการดื่มเครื่องดื่มแต่ละครั้ง ถือเป็นการสร้างขยะถึง 3 ชิ้น ทั้งจากแก้ว ฝาครอบ และหลอดดูด (ยังไม่นับว่าบางครั้งก็มีถุงหิ้วกาแฟมาด้วย)
ซึ่งจากสถิติในหนึ่งปีประเทศไทยมีขยะจากบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มโดยเฉลี่ยมากถึงราว 400 ล้านชิ้น (ที่มา: กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม) ซึ่งคงจะดีไม่น้อยหากเราสามารถมีความสุขไปกับการจิบเครื่องดื่มแก้วโปรด โดยไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในเวลาเดียวกัน
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม และปูพรมการดำเนินธุรกิจร้านอาหารอย่างยั่งยืน “เดอะ คอฟฟี่ คลับ” ร้านออลเดย์ไดนิ่งสัญชาติออสเตรเลีย ที่นอกจากจะโดดเด่นเรื่องอาหารเช้า ก็ยังขึ้นชื่อเมนูกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆ ด้วย
ล่าสุดได้ผุดไอเดียการให้บริการเมนูเครื่องดื่มแบบ Zero Waste ที่เสิร์ฟความหอมกรุ่นมาใน “ถ้วยรับประทานได้” ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้วยังไม่เหลือขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สอดคล้องไปกับปณิธานของแบรนด์ที่ตระหนักและให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
‘นงชนก สถานานนท์’ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการที่ เดอะ คอฟฟี่ คลับ มีการจำหน่ายกาแฟและเครื่องดื่มเป็นปริมาณมากในแต่ละวัน ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน
จึงได้ริเริ่มการนำเสนอเมนูเครื่องดื่มในถ้วยที่สามารถรับประทานได้ ผลิตจากธัญพืชโฮลวีตอัดแข็ง ซึ่งนอกจากจะไม่ก่อให้เกิดขยะแล้ว ยังทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในการรับประทานเครื่องดื่ม
อีกทั้งถ้วยโฮลวีตยังทำมาจากธัญพืชเต็มเมล็ดที่มีใยอาหารสูง มีประสิทธิภาพช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่กระแสเลือด และช่วยให้การไหลเวียนโลหิตเป็นปกติ
“นอกจากนี้ นี่ยังเป็นอีกหนึ่งแนวทางการแก้ปัญหาง่ายๆ และมีประสิทธิภาพ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน”
สำหรับความพิเศษของถ้วยโฮลวีตรับประทานได้ มาพร้อมกับเครื่องดื่มร้อน ประเดิมด้วย 2 เมนูใหม่ ได้แก่ “PICCOLO LATTE” กาแฟลาเต้ และเมนู “GREEN TEA LATTE” ผงชาเขียวเกรดพรีเมียมเพิ่มความกลมกล่อมด้วยนม
ซึ่งทั้งสองเมนูเสิร์ฟมาในถ้วยโฮลวีต ภายใต้คอนเซ็ปต์ SIP YOUR COF, BITE YOUR CUP เคล็ดลับความอร่อยขั้นสุดที่ใครลองแล้วเป็นต้องติดใจ ที่เริ่มจากการจิบเครื่องดื่มแก้วโปรด ตามด้วยการคนเครื่องดื่มร้อนในถ้วยช้าๆ เพิ่มมิติรสชาติด้วยความหอมหวานของธัญพืชโฮลวีต
ปิดท้ายด้วยการลิ้มลองเนื้อสัมผัสกรุบกรอบของถ้วยโฮลวีต เท่านี้ก็สามารถอร่อยฟินได้จนหมดแก้ว แถมยังได้ร่วมบอกรักษ์โลกได้ง่ายๆ เรียกได้ว่าทั้งอิ่มอร่อยและอิ่มใจไปพร้อมกัน
โดยเมนูความอร่อยใหม่นี้พร้อมให้บริการแล้วที่ร้านเดอะ คอฟฟี่ คลับ เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เท่านั้น
นอกจากนี้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังใส่ใจไปจนถึงวัตถุดิบที่นำมาใช้ภายในร้าน เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนครอบคลุมทุกมิติ อาทิ การนำเข้านมข้าวโอ๊ตจากออสเตรเลียมาเป็นวัตถุดิบทางเลือกให้กับผู้บริโภค
ซึ่งการบริโภคนมทางเลือกที่ผลิตจากพืชแทนนมวัวจะช่วยก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและมลพิษสู่ธรรมชาติในปริมาณที่น้อยกว่า อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพ
ยิ่งไปกว่านั้น นมข้าวโอ๊ตยังมีคุณสมบัติพิเศษคือมีความเข้มข้นของตัวนมที่มากกว่า ทั้งยังมีความหอมมัน ไม่แตกตัว เมื่อนำมาผสมกับกาแฟหรือชาก็ยังมอบรสชาติความเข้มข้นของกาแฟและชาได้อย่างชัดเจน
อ่านบทความน่าสนใจ: