
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
วันที่ 16 ส.ค.นี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. เศรษฐกิจ) เป็นนัดแรก ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปี นายกฯ ชูโมเดล “BCG” แก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก-ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับให้หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่กระทรวงการคลัง ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปี ด้วย
ทั้งนี้ หลังจากประชุม ครม.เศรษฐกิจเสร็จ จะมีการประกาศมาตรการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยรายละเอียดของมาตรการทั้งหมดจะมีความชัดเจนในวันที่ 16 สิงหาคมนี้แน่นอน ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจ ทั้งนักลงทุนและผู้บริโภคที่จะมีเชื่อมั่นในมาตรการที่จะออกมา
นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับให้ทุกกระทรวงช่วยกันดู และช่วยคิดมาตรการระยะสั้น กลาง ยาว เข้ามาร่วมกันสนับสนุน เพราะจะไม่มีมาตรการกระตุ้นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งบางส่วนต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจด้วย นอกจากนี้ ยังให้ทุกกระทรวงรับ BCG Model หรือการพัฒนาเศรษฐกิจใน 3 มิติ ไปพิจารณา ซึ่งประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Greeneconomy) ซึ่งโมเดลดังกล่าวจะเป็นโมเดลสำคัญในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระดับฐานราก และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำได้อย่างแท้จริง
สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวม ขณะนี้ตัวเลขดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆ มีสัญญาณชะลอตัว มีเพียงภาคการท่องเที่ยวที่ยังสามารถขยายตัวได้ดี ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ คงต้องรอให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงในวันที่ 19 สิงหาคมนี้
โดย ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สำรวจความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของผู้ประกอบการไทย ประจำเดือนกรกฎาคม 2562 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 46.7 ลดจากเดือนมิถุนายน 2562 ที่ระดับ 47.1 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ ซูเปอร์โพล ได้สำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยต่อเศรษฐกิจของประเทศ พบว่า กลุ่มตัวอย่างครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50.1 เชื่อมั่นว่า แย่ลงต่อในอีก 12 เดือนข้างหน้า มีเพียงร้อยละ 6.5 เชื่อมั่นดีขึ้นเล็กน้อย