เปิดตลาดวาดฝัน สร้างโอกาส สร้างอาชีพ นักเรียนทุนทั่วประเทศ

รัฐมนตรีว่าการกระทรงศึกษาธิการ ชมตลาดสร้างอาชีพ นักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจาก กสศ. พร้อมร่วมสานต่อนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ ส่งต่อข้อมูลเหล่านี้ให้กระทรวงศึกษาธิการวางแผนจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือโอกาสทางการศึกษาเด็กยากจนได้ในอนาคต

วันที่ 5 ก.ย. 62 ที่โรงเรียนชุมชนวัดเสด็จ จังหวัดปทุมธานี กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. จัดงาน ตลาดวาดฝัน ส่งต่อรอยยิ้ม สร้างโอกาส สร้างอาชีพ นักเรียนทุนเสมอภาค ที่มีนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจากทั่วประเทศมา นำอาหาร ผลิตภัณฑ์ มาออกบู๊ทจำหน่าย โดยมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ เช่น เค้กหน้านิ่ม บราวนี่ และนำสมุนไพร ของ รร.ชุมชนวัดเสด็จ , ไข่เค็มชนเผ่า กล้วยฉาบสูตรสมุนไพร โดย รร.โชติคุณะเกษม บ้านเมืองงาม จ.เชียงใหม่ , เค้กกล้วยหอมธัญพืช รร.บ้านนอก จ.ปัตตานี, ชาใบหม่อน ข้าวเกรียบใบหม่อน รร.ราษฎร์บำรุงธรรม, ชาใบเมี่ยง รร.สกาดพัฒนา จ.น่าน, โดนัทสูตรสมุนไพร รร.ท่าปลาอนุสรณ์ 1 จ.อุตรดิตถ์, เห็ดนางฟ้าภูฏาน เห็ดทอด จาก รร.บ้านบ่อพระ จ.สุราษฎร์ธานี, ไข่ไก่ เห็ดขอนขาว เห็ดนางฟ้า ผาสุกประชานุกูล จ.อุดรธานี, ชาสมุนไพร หายาก โด่ไม่รู้ล้ม กระติ๊บข้าว ชะลอมสาน สบู่สมุนไพร รร.มัธยมตลาดใหญ่วิทยา จ.ขอนแก่น, น้ำยาล้างจาน พับผ้ารูปสัตว์ ยาหม่อง รร.บ้านเนินรัก จ.เพชรบุรี, ต้นอ่อนทานตะวัน ผักออร์แกนิค สบู่ ฟักข้าว รร.วัดโคกสมานคุณ จ.สงขลำ, กาแฟสด จาก รร.บ้านห้วยไร่ สามัคคีเชียงราย จังหวัดเชียงราย, ตำแซบอีสาน และการทำขนมไทย จาก รร.สระขุดดงสำราญวิทยา จ.สุรินทร์, การทำผ้าปักม้ง โดย รร.แม่ตะละวิทยา จ.เชียงราย, หมูห่อใบชา และ เกี้ยวชูชา จาก รร.พญาไพรไตรมิตร จ.เชียงราย

นอกจากนี้ ยังมีพิธีมอบเงินบริจาคให้กับโรงเรียนและนักเรียน จากโครงการรณรงค์ทางสังคม “จดหมาย ลาครู”  ให้กับนักเรียน 8 คน ได้แก่ ด.ช.ปรีชา จอดนอก รร.ชุมชนวัดเสด็จ, ด.ช.พงศกร อาสาพิทักษ์ไพร รร.บ้ำนนาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่, ด.ญ.รุ่งรวิน คลุมทูชน ด.ญ.นันท์นภัส ดำรงชูทรัพย์ ด.ช.กิตติวินท์ งีแคว รร.บ้านใบหนำ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ , ด.ญ.พศิกา ขุนราช รร.ราษฎร์บำรุงธรรม จ.กาญจนบุรี, ด.ญ.ลลิณี จงภักดี รร.บ้านบ่อพระ จ.สุราษฎร์ธานี, ดญ.สุกันยา วังยาทัน รร.ผาสุกประชานุกูล จ.อุดรธานี

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กสศ. ช่วยให้กระทรวงศึกษาธิการ เห็นตัวเลขเด็กยากจนที่ยังขาดโอกาสทางการศึกษาอยู่เป็นจำนวนมาก โดยส่วนตัวกำลังผลักดันนโยบายขจัดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นกับเด็กทุกคน โดยจะเร่งดำเนินการเป็นนโยบายเร่งด่วน ซึ่งการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษานั้นจะต้องมุ่งเน้นให้เด็กเรียนเพื่อการสร้างอาชีพไม่ใช่เรียนจบแล้วกลับไปนั่งอยู่บ้านหรือไปนั่งเล่นเกม

จากที่ได้เห็นข้อมูลตัวเลขเด็กยากจนจากกองทุนกสศ. ที่ครอบครัวมีรายได้เพียง 1,250 บาทต่อเดือนนั้น หากไม่ได้รับการสนับสนุนเด็กไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงอยากให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามาช่วยผลักดันแก้ไขปัญหาในการให้โอกาสทางการศึกษากับเด็กยากจนมากยิ่งขึ้นโดยที่ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนด้วย อีกทั้งการจัดสรรงบประมาณจะต้องเชื่อมโยงกับตัวชี้วัดว่างบที่ให้ไปเด็กได้รับโอกาสทางการศึกษาที่แท้จริงหรือไม่ โดยขอให้ สพฐ.นำโครงการการสร้างอาชีพสร้างรายได้ที่กองทุนกสศ.ดำเนินการอยู่ไปต่อยอดขยายครอบคลุมให้มากขึ้นด้วย

“สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คนที่จะมาแบกรับภาระต่อไปก็คือ เด็กๆ ยิ่งหากเขาเก่งมากเท่าไหร่ ประเทศไทยก็จะเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม การจัดสรรงบก็ต้องมีตัวชี้วัด ว่า คืออะไร และเป็นสิ่งที่หน่วยงานของ ศธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งดูและเด็กนักเรียนทั้งหมดต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้เห็นความชัดเจน หลังจากนี้อีก 1 ปี เพราะเป็นเงินจากภาษีประชาชน ต้องใช้ให้มีคุณค่า รวมทั้งจะต้องเดินหน้าให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs เป้าหมายที่สี่การศึกษาที่เท่าเทียม” นายณัฏฐพล กล่าว

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร กสศ. กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือด้วยแนวทางสงเคราะห์ยากที่จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้อย่างยั่งยืน และไม่สามารถหยุดปัญหาความยากจนข้ามชั่วคนได้ ส่วนหนึ่งของทุนเสมอภาคของ กสศ. จึงมุ่งไปที่กิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต เพื่อให้นักเรียนทุนเสมอภาคเหล่านี้สามารถพึ่งพาตนเองและดูแลครอบครัวได้อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยการสนับสนุนและบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมของโรงเรียน คุณครู นักเรียน ขณะนี้มีโรงเรียนที่มีความพร้อมสามารถขยายผลกิจกรรมทักษะอาชีพ นำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายรูปแบบ สร้างรายได้ให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาค สมัครเข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายตลาดวาดฝัน สร้างโอกาส สร้างอาชีพ เบื้องต้นแล้ว 107 โรงเรียนทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาค และในอนาคตจะมีมากขึ้นกว่านี้

“ยอดเงินบริจาคจากโครงการรณรงค์จดหมายลาครูระหว่างเดือน มิ.ย. – ก.ค. 62 มีผู้บริจาค 1,576 รายการ รวมยอดบริจาคทั้งสิ้น 695,239.20 บาท ซึ่งเงินบริจาคจากประชาชน ส่วนแรกจะมุ่งตรงไปที่เด็กๆ เจ้าของจดหมายลาครูจำนวน 8 คน คนละประมาณ 43,000 บาท เพื่อช่วยเหลือปัญหาเฉพาะหน้า ให้ได้เรียนหนังสือ ไม่หลุดออกนอกระบบการศึกษา และส่วนที่ 2 จะสนับสนุนโรงเรียน 6 แห่ง แห่งละ 58,000 บาท เพื่อใช้ในกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพ ส่งเสริมศักยภาพเด็กๆ ต่อยอดจากที่ กสศ. สนับสนุนทุกโรงเรียน และยังส่งผลให้นักเรียนทุนเสมอภาคคนอื่นๆในโรงเรียนได้รับอานิสงค์จากเงินบริจาคนี้ด้วย” ดร.ประสาร กล่าว

นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า ความร่วมมือจาก สพฐ. เขตพื้นที่การศึกษาและคุณครูทั่วประเทศ ทำให้ กสศ.สามารถสนับสนุนทุนเสมอภาคเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ยากจนข้นแค้นที่สุด ให้แก่โรงเรียนสังกัด สพฐ. 29,871 โรงเรียน ซึ่งในปีการศึกษา 2562 จะสามารถช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มนี้จำนวน 723,604 คน อย่างไรก็ตาม ทุนเสมอภาค ที่ กสศ. ได้รับจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลมาให้แก่นักเรียนยากจนพิเศษในแต่ละปีนั้น แม้จะพอช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครอบครัวนักเรียนได้บ้างบางส่วน คำนวณแล้วราววันละ 10 บาทต่อคนเท่านั้น จึงต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วนมาร่วมเต็มเต็มความช่วยเหลือให้เด็กกลุ่มนี้มากขึ้น

“ขณะนี้ กสศ.สามารถช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษในระดับชั้น ป.1 – ม.3 ขณะที่งานวิจัยชี้ว่า ปฐมวัยคือช่วงวัยสำคัญหากเข้าเรียนอนุบาลช้ามีแนวโน้มหลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนเพื่อน กสศ. จึงพยายามช่วยเหลือทุนเสมอภาคระดับอนุบาล เบื้องต้นสามารถสนับสนุนได้ 10 จังหวัด เท่านั้น ซึ่งเราคาดหวังว่าปีหน้ารัฐบาลและรัฐสภา จะสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อดูแลเด็กๆอนุบาลได้ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ” นพ.สุภกร กล่าว

นายสมคะเน ดาษดา ผอ.โรงเรียนชุมชนวัดเสด็จ จ.ปทุมธานี กล่าวว่า เงินอุดหนุนจากโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข ของ ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อเด็กๆ และเสริมสร้างสิ่งต่างๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะพื้นฐานการดำรงชีวิต และยังมีพิเศษอีกส่วนคือเป็นทุนสำหรับต่อยอดให้เด็กนักเรียนนำทุนส่วนนี้ไปฝึกอาชีพ สามารถที่จะนำทุนนี้ไปสร้างรายได้ แล้วรายได้นั้นก็สามารถนำมาช่วยเหลือในเรื่องจำเป็นในการดำรงชีวิตของเขา

ด้าน ดญ. พศิกา ขุนราช นักเรียน ม.2 โรงเรียนราษฎร์บำรุง กล่าวในฐานะตัวแทนของเด็กที่ได้รับทุนการศึกษา ขอบคุณ รมว.ศธ. สพฐ. ผู้ใหญ่ใจดี ที่สร้างโอกาส สร้างอนาคตให้พวกเรา ซึ่งขอสัญญาว่าจะนำเงินที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ามากๆ