Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

กสศ.จับมือ ตชด. เปิดโครงการพัฒนาครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนฯ นำร่อง 50 แห่ง ใน 15 จังหวัด ร่วมพัฒนาสมรรถนะครู485 คน เด็กนร.5,33
5 คน และคุณภาพการศึกษาในถิ่นทุรกันดาร จากความร่วมมือสถาบันอุดมศึกษาใน 4 ภูมิภาค หวังช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา

นายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ร่วมกับ พล.ต.ท.วิชิต ปักษา ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) ประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจ ในการดำเนินงานโครงการพัฒนาครูในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ผ่านระบบ video conference โดยมีผู้แทนกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน 1-4 ผู้แทนกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 11-14, 21-24, 31-34, 41-44 และครูใหญ่โรงเรียนสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนนำร่อง 50 โรงเรียนเข้าร่วม

นายสุภกร กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นที่ทาง บช.ตชด. และ กสศ. ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือใน “โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนแบบมีเงื่อนไขและพัฒนาคุณภาพครู” กับโรงเรียนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน 220 แห่ง เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2562 นำมาสู่ “โครงการพัฒนาครูในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร” ซึ่งกสศ. มุ่งหวังว่าจะเข้าไปสนับสนุนการพัฒนาสมรรถนะของครู สู่การพัฒนาศักยภาพของเด็กที่เหมาะสมตามช่วงวัย ให้สอดรับภารกิจของ กสศ. โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน 50 แห่ง จากโรงเรียนในสังกัด ตชด. ทั้งหมด 220 แห่ง จะกระจายอยู่ในพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เลย อุดรธานี บึงกาฬ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ตาก สงขลา ตรัง สตูล และพัทลุง จะมีครูที่ได้รับการพัฒนาทั้งหมด 485 คน เด็กนักเรียนได้รับประโยชน์ 5,335 คน หลักสูตรที่พัฒนาคาดว่าจะเรียบร้อยและใช้สำหรับการจัดการเรียนการสอนให้ครู ตชด.ได้ในปีการศึกษา 2564

โครงการนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษาใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร และมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และจัดหลักสูตรให้กับเหมาะสมกับครู ตชด. ที่สำคัญถือเป็นนวัตกรรมใหม่ทางการศึกษาสำหรับครูในท้องถิ่นทุรกันดาร เพราะมีความยืดหยุ่นปรับได้ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เน้นฝึกปฏิบัติจริง มีกลไก สอดคล้องกับบริบทและสภาพปัญหา เพื่อส่งเสริมให้ครู ตชด. มีโอกาสได้ศึกษาต่อเพื่อเพิ่มคุณวุฒิทางวิชาชีพครูตามมาตรฐาน ช่วยลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาและทำให้เด็กมีคุณภาพการเรียนรู้

พล.ต.ท.วิชิต กล่าวว่า ความร่วมมือนี้จะช่วยลดอุปสรรคของการพัฒนาครูในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนอย่างเป็นระบบ โดยมีวัตถุประสงค์ 2 ด้านสำคัญ คือ 1.การพัฒนาสมรรถนะครู ตชด. โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน และ 2.การพัฒนาหลักสูตรผลิตครูของมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการให้สอดคล้องกับบริบทและสภาพปัญหาของครู ตชด. เนื่องจากที่ผ่านมาครู ตชด.ไม่สามารถศึกษาต่อให้ได้รับคุณวุฒิทางวิชาชีพครู ด้วย 2 สาเหตุ คือ ภาระงานที่ล้นมือ แม้ว่าโครงการจะจัดการเรียนการสอนในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่โรงเรียน ตชด. ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล เสียเวลาในการเดินทาง ทำให้ใน 1 สัปดาห์ ครูต้องฝากห้องเรียนไว้กับเพื่อนครู สัปดาห์ละ 2 วัน ครูในโรงเรียนต้องมีภาระเพิ่มขึ้น ส่วนครูที่ศึกษาต่อก็มีภาระงานทั้งความเป็นครู ตำรวจและนักศึกษาในที่สุด จึงต้องตัดสินใจยุติการเรียนกลางคัน เพราะความเหนื่อยล้าจากการมีภาระงานรอบด้าน ภาระค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเดินทางและค่าที่พักในการเดินทางไปเรียนวันเสาร์ อาทิตย์ ซึ่งครูต้องใช้จ่ายโดยเฉลี่ยประมาณ 3,000-3,500 บาทต่อครั้ง นอกจากนี้ ยังมีค่าตำราเรียน ค่าจัดทำเอกสารรายงานต่างๆ ยังไม่นับรวมภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ จึงทำให้ครูต้องยุติการเรียนกลางคัน

ปัจจุบันโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศมีทั้งหมด 220 แห่ง มีครูทั้งหมด 2,500 คน ในจำนวนนี้มีครู ตชด.ที่มีวุฒิบัตรครูเพียง 20-30%เท่านั้น จึงมีความจำเป็นให้ครู ตชด.ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะในทุกๆด้าน สิ่งที่เราคาดหวังในครั้งนี้คือ จะเป็นขวัญและกำลังใจให้กับครู ตชด.เมื่อครูมีศักยภาพแล้วผลที่ได้จะถูกส่งต่อไปยังนักเรียนส่งผลให้นักเรียนมีความรู้ และมีศักยภาพ ที่สำคัญช่วยลดความเหลื่อมล้ำในมิติครูและโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างแท้จริง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า