SHARE

คัดลอกแล้ว

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดข้อเสนอเร่งด่วน นโยบาย “ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษา” เพื่อเด็กและเยาวชนยากจน 2.5 ล้านคน หลุดพ้นจากวงจรความยากจนข้ามรุ่น สำหรับวาระการเลือกตั้งของประเทศไทยที่กำลังจะมาถึง โดยเน้นนโยบายที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ  ชูหลักประกันโอกาสการศึกษา 20 ปี ไร้รอยต่อ ระบบการศึกษาหลายทางเลือก ตอบโจทย์ชีวิต กระจายอำนาจให้เกิด Hub การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระดับจังหวัด

กสศ.รายงานข้อค้นพบ ระบุว่า แม้ว่าภาครัฐจะดำเนินนโยบายเรียนฟรีและให้การสนับสนุนนักเรียนที่มาจากครัวเรือนยากจนอย่างต่อเนื่อง กระนั้นในแต่ละปียังคงมีนักเรียนบางส่วนที่จำเป็นต้องตัดสินใจออกจากการศึกษาภาคบังคับกลางคัน  โดยพบว่า 1 ใน 5 ของเด็กไทยเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษา เพราะความยากจนในระดับรุนแรง หรือประมาณ 2.5 ล้านคน (ร้อยละ 20 จากจำนวนนักเรียนในการศึกษาภาคบังคับทั้งหมด 9 ล้านคน)  เฉพาะปี 2565 สถิติชี้ว่า มีนักเรียนยากจนพิเศษ 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีประมาณ 900,000 กว่าคน นักเรียนกลุ่มนี้มาจากครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยที่ 1,044 บาทต่อคนต่อเดือน หรือเพียงวันละ 34 บาทต่อคนต่อวัน สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 และการชะลอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน

“ผลการศึกษาในอดีตทั้งในและต่างประเทศชี้ว่า รายได้ของครัวเรือนนักเรียนเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการออกกลางคัน  ภาวะความยากจนในระดับรุนแรงบวกกับดักความคิดว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตให้ดีขึ้นกว่าเดิม มีมุมมองอาชีพที่จำกัด  มีผลต่อการตัดสินใจออกจากระบบการศึกษาอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้เด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ต้องเข้าสู่ตลาดแรงงานในฐานะแรงงานด้อยทักษะและมีลูกหลานที่ถูกผลิตซ้ำเส้นทางชีวิตตกอยู่ในวงจรความยากจนข้ามรุ่น”

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ.

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า ข้อค้นพบตลอด 5 ปีที่ผ่านมาในการทำงานของ กสศ.ร่วมกับเครือข่าย ที่มุ่งเน้น “ทำความเข้าใจ”ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจและความสามารถในการ “เข้าถึงการศึกษา”ของเด็ก เยาวชนและครัวเรือนยากจนข้ามรุ่น กสศ. จึงเสนอ 3 ข้อเสนอนโยบายสาธารณะเร่งด่วน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษา โดยมุ่งนโยบายที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ได้แก่ 

  1. ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจำเป็นต้องมีหลักประกันทางการศึกษาให้แก่เยาวชนทุกคนอย่างไร้รอยต่อ เชื่อมฐานข้อมูลเด็กและเยาวชน 2.5 ล้านคน และส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆเพื่อให้รับสวัสดิการครอบคลุมทุกมิติและการสนับสนุนการศึกษาสูงสุดเต็มศักยภาพ ไม่มีใครตกหล่น  และควรเพิ่มเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขให้ เด็กเยาวชนในครัวเรือนใต้เส้นความยากจน (2,762 บาทต่อคน/ครัวเรือน) จำนวน  2.5 ล้านคน ทุกคน ครอบคลุมทุกการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกช่วงชั้น ทุกรูปแบบการเรียนรู้  เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงและคงอยู่ในระบบการศึกษา ซึ่งงบเรียนฟรี 15 ปี ยังไม่ครอบคลุม

การขยายสวัสดิการเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนให้ครอบคลุมนักเรียนระดับอนุบาลและมัธยมศึกษาตอนปลาย สายอาชีพและเทียบเท่าในทุกสังกัดการศึกษา และทุกรูปแบบการเรียนรู้ เช่น ศูนย์การเรียน บ้านเรียน วิทยาลัยการอาชีพ/เทคนิค  รวมถึงปรับอัตราให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อของค่าครองชีพทางการศึกษา (ไม่ได้ปรับมา 14 ปี)  เพื่อพยุงกำลังซื้อให้ผู้ปกครองยังคงมีกำลังส่งบุตรหลานให้ยังคงเรียนหนังสือ และเพิ่มศักยภาพของการจัดสวัสดิการเงินอุดหนุนแบบมุ่งเป้า ด้วยการใช้ EdTech ติดตาม เงื่อนไขการคงอยู่ในระบบการศึกษาไม่ให้ต่ำกว่าร้อยละ 80-85 พัฒนาการสมวัยรอบด้าน และระบบส่งต่อความช่วยเหลือจากโรงเรียนถึงทุกหน่วยงาน

  1. ระบบการศึกษาที่ทุกคนมีทางเลือก ตอบโจทย์ชีวิต หรือ Alternative Education กสศ. พบว่าระบบการศึกษาไม่เข้ากับเด็ก ขาดแคลนทางเลือก ไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้ เป็นสาเหตุสำคัญของการผลักดันให้เด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษาและระบบสังคม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในครัวเรือนยากจน ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางทางสังคมและปัญหาเฉพาะ เช่น เด็กและเยาวชนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม กลุ่มตั้งครรภ์ในวัยเรียน กลุ่มที่มีความต้องการพิเศษ

รัฐควรกระจายอำนาจในการจัดการศึกษา สนับสนุนให้เกิดหน่วยจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเสมอภาค ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันรายบุคคล มีความยืดหยุ่นทั้งเวลา รูปแบบ และเงื่อนไขในการเข้ารับบริการทางด้านการศึกษาสามารถเรียนแล้วได้วุฒิ ได้งาน ได้เงิน  ได้ทักษะชีวิต ทักษะการทำงานในโลกยุคใหม่  ตัวอย่างนวัตกรรม เช่น โรงเรียน 3 ระบบ, 1 ตำบล 1 ศูนย์เรียนรู้ชุมชน ,หลักสูตรอาชีพระยะสั้น Upskill & reskill, โรงเรียนมือถือ, ศูนย์การเรียน โดยมีระบบเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่น เช่น ธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ (National Credit Bank) เป็นกลไกที่ช่วยให้การเรียนรู้ทุกรูปแบบสามารถเทียบโอนหน่วยกิต เชื่อมต่อกันได้ทั้งระบบในทุกระดับ ทำให้การศึกษาตลอดชีวิตเกิดขึ้นได้จริง  ขณะเดียวกันระบบสวัสดิการต้องครอบคลุมทุกรูปแบบการจัดการศึกษาด้วย

  1. กระจายอำนาจด้วย Hub การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระดับจังหวัดหรือท้องถิ่น จัดทำนโยบายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของพื้นที่ และเชื่อมโยงความร่วมมือทุกมิติ รวมถึงจัดตั้งกองทุนลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและพัฒนากำลังคนระดับจังหวัดหรือท้องถิ่น สามารถพัฒนานวัตกรรมการเงินและการคลัง เพื่อระดมทรัพยากรและบริหารงบประมาณภายในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

“ทุกวันนี้ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์แล้ว อัตราเด็กเกิดใหม่น้อยลงกว่าเดิมมาก ไทยจึงเป็นประเทศที่ไม่สามารถปล่อยให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาได้แม้แต่คนเดียว นโยบายที่จะนำไปสู่ทางออกจากปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษาที่ยั่งยืนนั้น จึงต้องเป็นมากกว่าความช่วยเหลือในการให้เงินอุดหนุนและทุนให้เปล่า แต่ต้องส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ ผ่านระบบการศึกษาที่ทุกคนมีทางเลือก ตอบโจทย์ชีวิต สามารถพึ่งพาตัวเองได้ การออกแบบนโยบายเช่นนี้จะไม่เพียงพาเด็กและเยาวชน จำนวน 2.5 ล้านคน จากครัวเรือนยากจน 20% ท้ายของประเทศ ก้าวออกจากวงจรความยากจนข้ามรุ่น  ยังส่งผลต่อระบบการศึกษาที่ตอบโจทย์ชีวิต เด็กเยาวชนทั้งประเทศ และประเทศไทยสามารถก้าวออกจากกับดักรายได้ปานกลางได้สำเร็จภายในช่วงชีวิตของพวกเราทุกคน ผู้จัดการ กสศ. กล่าว

สามารถดาวน์โหลดเอกสารฉบับเต็มที่ คลิก รายงานข้อค้นพบและข้อเสนอนโยบาย “ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษา” เพื่อเด็กและเยาวชนยากจน 2.5 ล้านคน หลุดพ้นจากวงจรความยากจนข้ามรุ่น

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า