เพื่อไทยส่ง “ธนิก” ลงชน “สมศักดิ์” พปชร. เลือกตั้งซ่อมขอนแก่น 22 ธ.ค.

ผลการเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค. 62

วันที่ 25 พ.ย. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่จดหมายข่าว การออกประกาศ กกต. กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค. เวลา 08.00-17.00 น. กำหนดวันรับสมัคร วันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย. – วันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. เวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)

ด้านพรรคเพื่อไทย ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและมีการแถลงผู้รับสมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขต 7 ขอนแก่นในนามของพรรค โดยมีมติเลือก นายธนิก มาสีพิทักษ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค

นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นแคนดิเดตคู่กับนายธนิก กล่าวว่า เห็นด้วยกับมติในครั้งนี้ เพราะนายธนิกทำงานอยู่ในพื้นที่กับประชาชนมาโดยตลอด เชื่อว่าถ้าชนะเลือกตั้งจะดูแลประชาชนได้เป็นอย่างดี ขอให้ประชาชนช่วยกันสนับสนุน รวมทั้งผู้ที่ตั้งใจจะเลือกตนก็ขอให้เลือกนายธนิกด้วย

ด้านนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ใครที่รักพรรคเพื่อไทยขอให้ให้ความกรุณากับนายธนิกด้วย ตนภาคภูมิใจนายอดิศร ที่แสดงให้เห็นความเป็นหนึ่งเดียวกันของพรรค

ธนิก มาสีพิทักษ์

ส่วนนายธนิก กล่าวว่า ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้โอกาสเป็นตัวแทน รวมทั้งของคุณนายอดิศรที่ให้สนับสนุน ตนพร้อมจะนำชัยชนะมาให้พรรค พื้นที่ขอนแก่น เป็นพื้นที่ของเพื่อไทย เราแพ้ไม่ได้

สมศักดิ์ คุณเงิน (ขวา)

ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐประกาศก่อนหน้านี้แล้วว่า จะส่งนายสมศักดิ์ คุณเงิน ผู้สมัครคนเดิมลงเลือกตั้งอีกครั้ง โดยผลการลงคะแนนเมื่อ 24 มี.ค. 62 นายสมศักดิ์ แพ้ นายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.เพื่อไทย ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้สิ้นสภาพ ส.ส.เพราะถูกจำคุกในคดีจ้างวานฆ่า

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า มั่นใจเป็นอย่างสูงว่านายสมศักดิ์ จะได้รับชัยชนะ เนื่องจากคะแนนเสียง ห่างกับผู้ได้รับเลือกตั้ง ส.ส. เพียง 3,000 คะแนน เท่านั้น โดยยืนยันว่าพรรคไม่ได้มีการใช้กลไกรัฐในการสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งตลอด 6 เดือน ที่ผ่านมารัฐบาลมีผลงานที่จับต้องได้ จึงเชื่อว่า ชาว จ.ขอนแก่นจะเลือกพรรคพลังประชารัฐทำให้ได้ส.ส.เพิ่มอีก 1 คน ส่งผลให้รัฐบาลมีเสียงเพิ่มขึ้นเป็น 256 เสียง มีเสถียรภาพในการบริหารประเทศมากยิ่งขึ้น