เลือกตั้ง 66 ลุ้นรับรอง ส.ส. ภายในเดือน มิ.ย.นี้-ประธานกกต. ไม่กดดันพิจารณาหุ้นสื่อ ‘พิธา’

ลุ้น กกต. รับรอง ส.ส. ในเดือน มิถุนายนนี้ จับตา จ่อสอย ’20 ว่าที่ ส.ส.’ ประธานกกต. ไม่กดดันพิจารณาหุ้นสื่อ ‘พิธา’

มีความคืบหน้าการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ร้อยละ 95 โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 66 ระบุถึงการรับรอง ส.ส.ครั้งนี้ จะเร็วกว่าครั้งที่แล้ว และเร็วกว่า 60 วันแน่นอน

นายอิทธิพร กล่าวต่อว่า ยังมีขั้นตอนทางกฎหมาย คือ การตรวจสอบก่อนว่า 95,000 กว่าหน่วยเลือกตั้ง มีหน่วยเลือกตั้งไหนที่จะต้องมีเหตุสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ออกเสียงลงคะแนนใหม่หรือนับคะแนนใหม่ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของกกต. ในเร็วๆ นี้ หลังจากนั้นกระบวนการจะใช้เวลาไม่มาก ก็จะมีความชัดเจนว่า จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้เมื่อใด

ผู้สื่อข่าวามว่า ประมาณปลายเดือนมิถุนายนนี้ น่าจะประกาศได้หรือไม่ (ครบรอบ 30 วันในวันที่ 13 มิ.ย. 66) นายอิทธิพร ตอบว่า ก็จะพยายาม เพราะต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงอย่างที่ได้กล่าวไป ทั้งนี้คาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน ยืนยัน กกต. ตระหนักดีถึงความจำเป็นของการประกาศผลการเลือกตั้งจะต้องไม่ช้า แต่ก็มีขั้นตอนทางกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติ ย้ำว่าจะพยายามทำให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่า ขณะนี้กกต.มีคำร้องที่เกี่ยวกับ ‘ว่าที่ส.ส.’ ที่ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้ไม่ได้ประกาศรับรองมากหรือไม่ นายอิทธิพร ตอบว่า ตัวเลขคำร้องเมื่อวาน 280 กว่าคำร้อง ส่วนผู้ที่เลือกตั้งชนะ ถ้าจำไม่ผิดมีประมาณกว่า 20 คน ซึ่งตอนนี้จะต้องขอตรวจสอบก่อนว่า มีหลักฐานชัดเจนหรือไม่

เมื่อถามว่า ตามกฎหมายที่ให้ประกาศรับรองร้อยละ 95 เบื้องต้นจะมีการรับรอง 475 คนใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ใช่ ตัวเลขเป็นเช่นนั้น แต่ว่าเราคิดว่า ถ้าเผื่อประกาศได้ 100 ได้ เราก็ประกาศ เพราะกฎหมายระบุว่าประกาศร้อยละ 95 เป็นอย่างต่ำ

[กรณีคำร้องหุ้นสื่อของ ‘พิธา’]

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคำร้องปมหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายอิทธิพร กล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจาก สำนักงาน กกต. ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของ กกต. ในไม่ช้านี้ ส่วนคาดว่าจะมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเพื่อให้สิ้นข้อสงสัยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะเรายังไม่เห็นข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ตอบไปก่อนคงไม่ได้

เมื่อถามว่า กรณีของนายพิธาต่างจากคดีถือหุ้นสื่อของคนอื่นหรือไม่ อย่างเช่นกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายอิทธิพร ตอบว่า คดีหุ้นทุกคดีจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่นำเสนอต่อเรา ก็จะพิจารณาตัดสินไปตามหลักฐานที่มี ถ้าเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอก็ขอให้สอบเพิ่มหรือศึกษาเพิ่มได้ แต่ตอนนี้เรายังไม่เห็นพยานหลักฐานที่เป็นทางการ ที่เป็นการทำงานของสำนักงาน กกต. ฉะนั้นตนจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้

ส่วนพยานหลักฐานตอนนี้มีเพียงพอ ยังต้องเพิ่มอะไรหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะสำนักงาน กกต. ยังไม่เสนอเรื่องขึ้นมา อยู่ในระหว่างการดำเนินการของสำนักงาน กกต.

เมื่อถามว่า ต้องเรียกนายพิธามาชี้แจงหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกระบวนการ ถ้าจะเรียกก็คงไม่ใช่ กกต.เรียก จะต้องเป็นสำนักงาน กกต. เรียก

ส่วนที่มีคนมองว่ากรณีคำร้องของ นายพิธาเหมือนเป็นการเล่นงานทางการเมืองของฝ่ายการเมือง นายอิทธิพล ตอบว่า เราไม่เคยดูเรื่องนั้น ทุกคำร้องเราต้องใช้พื้นฐานของระเบียบว่าด้วยการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. เป็นหลักในการพิจารณาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรก

เมื่อถามอีกว่า โซเชียลมีเดียมีการกดดันการตรวจสอบคดีหุ้นของนายพิธาหรือไม่ นายอิทธิพร ตอบว่า ไม่มี ทัังกกต. และสำนักงาน กกต. ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่มาโดยตลอด