‘พิชัย’ อดีตรัฐมนตรีพลังงาน สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย ตอบโต้ ‘เสธ.หิ’ แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังออกมาอัดค่าไฟแพง เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จวกกลับเพราะ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ต่างหากบริหารเศรษฐกิจไม่เป็น แล้วยังไม่เจรจาเอกชน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TODAY ชี้แจงกรณีที่นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ อดีตนายทหาร ปัจจุบันเป็นแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ รัฐบาลยิ่งลักษณ์เร่งอนุมัติซื้อไฟ 5,000 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าในปัจจุบันแพง ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งปัจจุบันพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น
โดย นายพิชัย ระบุว่า “น่าจะเข้าใจผิด คงตั้งใจโจมตีอย่างไรเหตุผล” พร้อมทั้งอธิบายว่า ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะปี พ.ศ. 2555 เศรษฐกิจดี เติบโตถึง 7.2% ซึ่งหากไม่มีการรัฐประหาร ในปี 2556 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะโตกว่า 10% ซึ่งรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ต้องมองเห็นว่า ต้องเตรียมพลังงาน รองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ที่ประเมินไว้ว่าจะเศรษฐกิจไทยจะขยายได้ปีละ 5% จึงต้องประมูลเพื่อให้มีไฟฟ้าใช้เพียงพอ แต่ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาทำรัฐประหารเศรษฐกิจไทยโตได้แค่ 1% กว่า แล้วแทนที่เศรษฐกิจโตน้อย จะไปดีเลย์เรื่องผลิตไฟฟ้าให้น้อย กลับไปให้ใบอนุญาตเพิ่มอีก จะมาโทษการอนุมัติในเรื่องของด้านพลังงาน 5,000 เมกะวัตต์ ไม่ได้
ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงเรื่องสัญญาทำไมถึงอิงกับเอกชนเกินไป นายพิชัย ระบุว่า เวลาคนสร้างโรงไฟฟ้าลงทุนสูง ถ้าสร้างแล้วรัฐไม่ซื้อ เจ๊งเลย เพราะการทำโรงไฟฟ้าต้องใช้เงินแสนๆ ล้านบาท รัฐก็ต้องมีมาตรการจูงใจให้เกิดการลงทุน แต่อย่างที่บอกควรจะมีระดับที่เหมาะสม ตอนนี้เกินไปเยอะมากถึง 50% จริงๆ ควรไม่เกิน 15%เท่านั้น แต่เพราะบริหารเศรษฐกิจแย่ โตน้อย แล้วไม่รู้จักปรับเปลี่ยน จะมาโทษ 8-9 ปีที่แล้ว ไม่น่าจะใช่ ถ้าไปชวนแล้วไม่มีการันตีก็ไม่มีใครเข้ามา ซึ่งโดยหลักการอยากเจรจาให้เอกชนลดลงมา เพราะคิด ‘ค่าความพร้อม’ ขนาดนี้สูงไป
นายพิชัย ย้ำด้วยว่า ถ้าเศรษฐกิจไทยโตอย่างต่ำ 5% ตามที่คำนวณไว้ ไม่กี่ปี ก็สามารถใช้ไฟฟ้าส่วนเกินหมดได้ ปัญหาเรื่องนี้ก็จะหมดไป
