เลือกตั้ง 66 ‘พิธา’ พร้อมเป็นนายกฯ ขออยู่ 2 สมัย รับฟังคนเห็นต่าง หยุดวงจรรัฐประหาร

‘พิธา’ ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ รับฟังคนเห็นต่าง-หยุดวงจรรัฐประหาร ขอนั่งเก้าอี้ 2 สมัย รอ ‘ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์’ กลับมา

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ขึ้นปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง ที่เวทีอาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยสรุปกล่าวว่า วันนี้ขอประกาศ เวลาของพวกเราได้มาถึงแล้ว เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันเท่านั้น คำตอบสุดท้ายก้าวไกลทั้งแผ่นดิน เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันเท่านั้น ที่พวกเราจะร่วมกันขีดเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

“วันนี้ผมพร้อมแล้วที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน ไม่ว่าคุณจะรวยดีมีจน ไม่ว่าคุณจะมาจากภูมิภาคไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือคนใหญ่ คุณสามารถฝากความฝันและความหวังไว้กับผมได้ ที่นี่คือสถานที่ที่การเดินทางของเราเริ่มต้น 4 ที่ผ่านไปไวเหมือนโกหก คนที่จุดไฟในสายลม เพื่อนรักของผม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, เพื่อนรัก ปิยบุตร แสงกนกกุล, เพื่อนรัก พรรณิการ์ วานิช คบเพลิงอยู่ในมือของผม ผมจะไม่มีวันให้มันดับ และรอคอยวันที่พวกคุณกลับมา ขอไม่มาก ทำตามสัญญา เป็นนายกฯ 2 สมัยก็พอ”

นายพิธา ย้ำนโยบายต้องการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องการเห็นการกระจายอำนาจ สามารถเลือกตั้งผู้ว่าฯ เอง ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร คืนครูให้ห้องเรียน ความฝันเรียบง่ายและหลากหลายเมื่อรวมกัน แต่ข้อจำกัดทางการเมืองใหญ่กว่า ดังนั้นผู้นำคนต่อไป ต้องเป็นนายกฯ ที่พร้อมจะแก้ปัญหาเก่า เผชิญหน้าปัญหาใหม่ และพร้อมจะพาประเทศไทยไปสู่อนาคตใหม่ไปด้วยกัน

แต่จะหยุดแช่ประเทศไทยได้ นายกฯ คนต่อไป ต้องแก้ปัญหาเก่าที่ทำให้ติดหล่ม 17 ปีที่ผ่านมา ต้องแก้ 2 ขยัก ขยักแรกคือ ยุติวงจรรัฐประหารชั่วนิรันดร โดยการปฏิรูปกองทัพอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน จิ๋วแต่แจ๋ว และหยุดแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย และอีกขยักคือต้องคืนศรัทธาให้ระบบรัฐสภา และระบบประชาธิปไตย 8 ปีที่ผ่านมา เราได้บทเรียนราคาแพงนี้แล้วด้วยกัน ประชาธิปไตยไม่มีทางลัด พอบอกระบบใช้ไม่ได้ เอาคนดีเข้ามา แล้วไม่มีการตรวจสอบ คอร์รัปชั่นถึงแย่ลง ผู้นำคนต่อไปต้องพร้อมตัดวงจรรัฐประหารและคืนศรัทธาให้กับรัฐสภา

นายพิธา กล่าวด้วยว่า ทุกคนมีพลวัต มีการพัฒนา มีพลังงานคนรุ่นใหม่ มีความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้น แน่นอนว่า ลมแห่งการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ แล้วประเทศไทยจะสร้างกำแพงหรือจะสร้างกังหันลม ทั้งนี้ นายพิธายังได้พูดถึง “หยก” เยาวชน อายุ 15 ปี ที่ตอนนี้ถูกฟ้องและถูกจับขัง กลายเป็นผู้ต้องหา มาตรา 112 ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย

“ผมพร้อมแล้วครับที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทุกคนในประะเทศ ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับผม ผมก็ยังจะเป็นนายกรัฐมนตรีของท่าน ไม่ว่าวันที่ 14 พฤษภาคม ท่านจะเลือกผมหรือไม่เลือกผม ผมพร้อมที่จะรับใช้ท่าน และผมจะฟังโดยเฉพาะคนที่เห็นต่างจากผม ผมได้ยินท่านผมจะเรียนรู้จากท่าน และผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีขึ้นก็เพราะท่าน” นายพิธา กล่าวย้ำ

ภาพจาก พรรคก้าวไกล

ภาพ ชนากานต์ เหล่าสารคาม / Thai News Pix

ภาพ ชนากานต์ เหล่าสารคาม / Thai News Pix