ความคืบหน้าการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ของ Adani Green Energy Limited (AGEL) บริษัทพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดของอินเดีย และผู้พัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก โดยโรงไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างนี้ตั้งอยู่ในรัฐคุชราตทางตะวันตกของอินเดีย ห่างจากพรมแดนระหว่างอินเดียกับปากีสถานราว 19 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่มีความตึงเครียดมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วย
ด้วยความที่เป็นโครงการขนาดใหญ่มาก ระดับที่ใช้พื้นที่ใหญ่กว่ากรุงปารีส 5 เท่า ประเมินว่าโครงการนี้จะผลิตพลังงานทดแทนได้ 30 กิกะวัตต์ต่อปี จ่ายไฟตามบ้านได้มากถึง 16-18 ล้านหลัง
โครงการนี้ใช้ต้นทุน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ และใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี ส่วนพื้นที่ก่อสร้าง บริเวณนี้เป็นที่ราบลานเกลือ เป็นหนึ่งในทะเลทรายเกลือใหญ่ที่สุดในโลก โดยคอนเซ็ปต์ต้องการให้เป็นอุทยานพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยตอนนี้ใช้แรงงานหลายพันคนติดตั้งเสาสำหรับแผงโซลาร์เซลล์ที่เรียงสุดลูกหูลูกตา และบางส่วนกำลังสร้างฐานสำหรับติดตั้งกังหันลมขนาดใหญ่ สร้างสถานีย่อย และวางสายไฟเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร
อย่างไรก็ตามโครงการเมกะโปรเจ็กต์นี้ถูกวิจารณ์ส่วนหนึ่งว่าไม่ได้มีการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
ซาการ์ อาดานี กรรมการบริหารของ AGEL กล่าวกับ CNN ว่า ขนาดความใหญ่ของโครงการจะเปลี่ยนพื้นที่ที่แห้งแล้งบริเวณชายแดนอินเดียฝั่งตะวันตกให้กลายเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่สำคัญที่สุดแหล่งหนึ่งในโลก ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้กว้างใหญ่มากและยังกันดาร ไม่มีสัตว์ป่า ไม่มีพืชพรรณ ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าการใช้ที่ดินนั้นพัฒนาโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ซาการ์ เป็นหลานชายของ โกตัม อดานี มหาเศรษฐีอินเดียเจ้าของอาณาจักร อดานี กรุ๊ป บุคคลที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย กับทรัพย์สิน 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งกลุ่มอดานี ทำธุรกิจนำเข้าถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของอินเดียและเป็นผู้นำในการขุดเชื้อเพลิงฟอสซิล นอกจากนี้ยังมีธุรกิจในสาขาต่างๆ ตั้งแต่ท่าเรือ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อน ซีเมนต์ ไปจนถึงธุรกิจสื่อ
โดยกลุ่มอดานีมีแผนที่จะลงทุน 1 แสนล้านดอลลาร์ในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในทศวรรษหน้า โดย 70 % ของการลงทุนมีไว้สำหรับพลังงานสะอาด
จุดสำคัญของธุรกิจพลังงานสะอาดที่อดานี กรุ๊ป มาขับเคลื่อนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อินเดียตั้งเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศไว้อย่างท้าทาย โดยนายกรัฐมตรีอินเดียนเรนทรา โมดี ให้สัญญาว่าแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมจะช่วยตอบสนองความต้องการพลังงานของอินเดียได้ถึง 50 % ภายในสิ้นทศวรรษนี้ และคาดว่าความต้องการไฟฟ้าของอินเดียจะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะผู้คนอินเดียมากกว่า 600 ล้านคน จะเข้าสู่กลุ่มมีรายได้ปานกลางและรายได้สูงในทศวรรษหน้าความต้องการพลังงานจึงจะมีมากขึ้นไปอีก ดังนั้นอินเดียตั้งเป้าที่จะผลิตพลังงานสะอาดให้ได้ 500 กิกะวัตต์ภายในสิ้นทศวรรษนี้