UN เตือนโลกร้อนขึ้นเฉลี่ย 2.7 องศา หากไม่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

UN ออกรายงาน เตือนทั่วโลกกำลังล้มเหลวในการควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เพิ่มเกิน 1.5 องศาเซลเซียล ตามเป้าหมายในความตกลงปารีส 

วันที่ 27 ต.ค. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme: UNEP) ได้เผยแพร่รายงานการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจก (Emissions Gap Report) ประจำปี ระบุว่า พันธสัญญาการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบัน ทำให้โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.7 องศาเซลเซียสในศตวรรษนี้ 

รายงานดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกมาก่อนที่การประชุม การประชุมสุดยอดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติครั้งที่ 26 หรือ COP26 จะเปิดฉากขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ ในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือถึงแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณภูมิโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม โดยมีการกำหนดเป้าหมายไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส 

ก่อนหน้านี้ องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกรายงานฉบับหนึ่งเมื่อเดือนส.ค. ชี้ว่าภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอาจทะลุ 1.5 องศาเซลเซียสในอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเกิดสภาพอากาศแปรปรวนทั่วโลก ตั้งแต่การการเกิดไฟป่าไปจนถึงน้ำท่วมรุนแรงในหลายประเทศ

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้เมื่อวันจันทร์ (25 ต.ค.) ที่ผ่านมาว่า ไม่มีความแน่นอนว่าการเจรจารอบสำคัญที่สุดของ UN นับตั้งแต่ที่มีการประกาศความตกลงปารีสออกมาเมื่อปี 2015 จะสามารถรักษาพันธสัญญาที่สำคัญในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้หรือไม่ 

ขณะที่องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ของ UN แถลงก่อนการประชุมที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์หน้าว่า โลกปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นทำลายสถิติในปีที่แล้ว และกำลังหลงทางในการควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สูงขึ้น 

รายงาน Emissions Gap Report ของ UNEP ฉบับนี้ ยังระบุถึง แผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของนานาประเทศ ซึ่งเมื่อนำมารวมกันจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกลงได้ประมาณ 7.5% ภายในปี 2030 แต่ยังคงไม่เพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ 

หากสถานการณ์ยังคงเป็นอยู่เช่นปัจจุบัน จะทำให้อุณภูมิร้อนขึ้นประมาณ 2.7 องศาเซลเซียส การที่จะรักษาระดับอุณหภูมิโลกให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส ทั่วโลกจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% และจำเป็นต้องลดลงถึง 50% หากต้องการรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5%

รายงานยังระบุด้วยว่า ขณะนี้กลุ่มประเทศ G20 ซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 80% ของทั่วโลก ยังคงไม่ได้อยู่ในเส้นทางที่จะทำให้พันธสัญญาทั้งก่อนหน้าและพันธสัญญาในปี 2030 ประสบความสำเร็จได้

นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN กล่าวว่า หากไม่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจังในทศวรรษหน้า เราจะสูญเสียโอกาสตลอดกาล ในการควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ G20 มีความจำเป็นที่จะต้องเสนอคำมั่นสัญญาที่จะนำไปสู่เป้าหมายการรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ก่อนที่การประชุมในกลาสโกว์จะเริ่มขึ้น