เมื่อโครงสร้างพื้นฐานยุคนี้ ไม่ได้หมายถึงแค่สะพาน หรือถนนอีกต่อไป หากแต่ต้องรวมถึง ‘โครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า’ ด้วย
อังกฤษประกาศ นับจากปี 2022 เป็นต้นไป ใครจะสร้างบ้าน สร้างอาคาร จะต้องมีจุดสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้า โดยคำสั่งนี้มาจากบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งออกแถลงการณ์ และเรียกแผนนี้ว่า “การปฏิวัติรถยนต์ไฟฟ้า” (electric vehicle revolution)
ในรายละเอียดของกฎหมายใหม่คือ
-บ้านและอาคารต่างๆ ทั่วไปทุกแห่งที่สร้างขึ้นใหม่ในปีหน้า จะต้องสร้างจุดชาร์จแบตเตอรี่ไว้รองรับรถยนต์ไฟฟ้า
-อาคารสำนักงาน หรือออฟฟิศ จำเป็นจะต้องสร้างจุดชาร์จแบตเตอรี่ในที่จอดรถเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้า
นอกจากนั้น ไม่ใช่แค่ตึกหรืออาคารที่สร้างขึ้นใหม่เท่านั้น แต่หากเป็นอาคารเก่าและมีการปรับปรุงในปีหน้า จะเข้าเงื่อนไขที่ว่า หากตึกนั้นมีที่จอดรถมากกว่า 10 คัน ก็จำเป็นจะต้องสร้างจุดชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
ถ้านับจนถึงขณะนี้ในอังกฤษมีจุดชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่รัฐบาลสนับสนุนรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 250,000 แห่ง แต่กฎหมายใหม่นี้ จะทำให้อังกฤษมีจุดชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอีกถึง 145,000 แห่งในทุกๆ ปี
อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้จะสอดคล้องกับนโยบายแบนรถยนต์ใช้น้ำมัน หรือสั่งให้ยกเลิกจำหน่ายรถยนต์ใช้น้ำมันภายในปี 2030 ทั่วสหราชอาณาจักร
“นี่คือช่วงเวลาสำคัญ และเราจะไม่สามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ หากเราไม่ปรับตัวทางเศรษฐกิจ และปฏัวิติไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียว” นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าว
สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อภาครัฐขยับตัวอย่างจริงจัง ภาคธุรกิจก็จะเขยื้อนไปด้วย เพราะนอกจากนโยบายเหล่านี้จะตอบโจทย์ภาครัฐในมุมของการเดินหน้าไปสู่ Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในมุมของอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจสีเขียวสายสิ่งแวดล้อม ก็จะมีที่ทางในการเติบโต เพราะภาครัฐกรุยทาง สร้างระบบนิเวศ (ecosystem) ไว้ให้แล้ว
ภาพแบบนี้คือการเดินหน้าไปสู่อนาคต สู่โลกใหม่ ที่สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครอยากตกขบวน
อ้างอิงแถลงการณ์ของอังกฤษเรื่องกำหนดให้ทุกบ้านละทุกอาคารต้องมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า